อุลตร้าแมน
มนุษย์ดาวเนบิวล่า M78 ที่ไล่ตาม เบมล่าร์ สัตว์ประหลาดที่ชั่วร้ายลงมายังโลกเกิดพลาดไปทำให้ จนท.ฮายาตะ แห่งหน่วยวิทยะเสียชีวิตลง มนุษย์ยักษ์สีเงินที่ใช้ชื่อว่า อุลตร้าแมน จึงได้รวมร่างกับ ฮายาตะ เพื่อคอยปกป้องโลกใบนี้เอาไว้ ทีวีซีรีส์ชุดที่ 2 ต่อจาก "อุลตร้า Q"
ความมีสีสันของอุลตร้าแมนที่ทุกคนรำลึกจดจำกันได้ดีเนื่องด้วยเป็นภาพยนตร์จอสี และ เหล่าสัตว์ประหลาดที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกอบกับสมาชิกหน่วยวิทยะที่แสดงอารมณ์ออกมาในรูปแบบของดราม่าอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยรูปลักษณ์ของผลงานที่นำเสนอความบันเทิงเหล่านี้เองจึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับจากพวกเด็กๆในยุคสมัยนั้นกันอย่างเนืองแน่น และนับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของหนังแนวทีวีดราม่าในประเทศญี่ปุ่นซึ่งถูกเล่าขานสืบต่อกันมาในยุคปัจจุบัน
ทีวีซีรีส์ อุลตร้าแมน ออกอากาศทางสถานี TBS ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 1966 ไปจนถึงวันที่ 9 เม.ย. 1967 ทุกวันอาทิตย์เวลา 19.00 ~ 19.30 น. รวมทั้งสิ้น 39 ตอน
ULTRAMAN
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
อายุ : ประมาณ 2 หมื่นปี
สถานที่กำเนิด : อาณาจักรแห่งแสงในเนบิวล่า M78 ( ดาวอุลตร้า )
ความเร็วในการบิน : 5 มัค ( ทว่า,เมื่ออยู่ในอวกาศเขาจะกลายเป็นลูกบอลสีแดง
แล้วเดินทางด้วยความเร็วแสง )
ความเร็วในการวิ่ง : 450 กม./ชม.
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 120 น็อต
พลังกระโดด : 800 เมตร
ลักษณะพิเศษ : เขาเป็นสมาชิกหน่วยพิทักษ์อวกาศซึ่งในระหว่างที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่
ในการนำตัว เบมล่าร์ สัตว์ประหลาดที่ชั่วร้ายไปส่งที่สุสานอวกาศอยู่นั้น
มันกลับหลบหนีไปได้ เขาจึงต้องติดตามมันมาจนถึงโลก
และในขณะนั้นเองเขาก็พลาดไปชนกับยานวีทอลของหน่วยวิทยะ
จนเป็นเหตุให้ จนท.ฮายาตะ ต้องจบชีวิตลง
อุลตร้าแมนที่รู้สึกว่าตัวเองจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
จึงได้แบ่งชีวิตของตนให้กับฮายาตะ
และสาบานตนว่าจะปกป้องสันติภาพของโลกใบนี้ร่วมไปกับเขา
ทว่า,เขามีเวลาอยู่บนโลกได้เพียง 3 นาทีเท่านั้น
หากเกินเวลานั้นแล้วเขาก็จะหมดกำลังที่จะลุกขึ้นมายืนหยัดได้อีกเป็นครั้งที่สอง
อุปกรณ์แปลงร่าง
เบต้าแคปซูล : อุปกรณ์แปลงร่างที่อุลตร้าแมนได้มอบให้แก่ ฮายาตะ
ซึ่งภายในนั้นจะบรรจุพลังงานแสงเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
หากไม่มีสิ่งนี้ก็จะแปลงร่างไม่ได้
ฮายาตะจะกด เบต้าแคปซูล ที่ถืออยู่ในมือเพื่อให้มันเปล่งแสงแฟลชออกมา
จากนั้น ฮายาตะ ก็จะถูกรายล้อมไปด้วยแสงสว่างอันเจิดจ้า
แล้วปรากฎร่างของอุลตร้าแมนขึ้นมา
เขาจะไม่สามารถแปลงร่างได้เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น
ท่าไม้ตาย และ ความสามารถพิเศษ
ลำแสงสเปเซี่ยม : ท่าไม้ตายที่อุลตร้าแมนเชี่ยวชาญมากที่สุด
และจัดเป็นลำแสงทำลายที่ทรงอานุภาพมาก
ซึ่งจะปล่อยลำแสงสปาร์คออกมาโดยการไขว่มือขวาที่มีพลังประจุลบ
และมือซ้ายที่มีพลังประจุบวกเข้าด้วยกัน
ลำแสงชนิดนี้จะมีคุณสมบัติเหมือนกับพลังงานจากธาตุสเปเซี่ยม
ที่มีอยู่บนดาวอังคาร
ท่านี้สามารถยิงออกมาได้แม้บินอยู่กลางอากาศ
ทั้งยังสามารถยิงแบบต่อเนื่องหรือยิงเป็นเวลานานได้ตามแต่กรณี
ผู้ที่ตั้งชื่อท่านี้ก็คือ กัปตันมุรามัตซึ และ จนท.ฟูจิ
อุลตร้าสแลช : เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "กงจักรแปดเสี้ยว" ซึ่งเป็นท่าตัดที่ใช้พลังงานสเปเซี่ยม
สร้างเป็นรูปวงแหวนขึ้นมาแล้วเขวี้ยงออกไป
ท่านี้ถูกใช้เป็นครั้งแรกในขณะที่ลำแสงสเปเซี่ยมถูกแสงสะท้อนสเปลเก้น
ของมนุษย์ดาวบัลตั้นรุ่นที่ 2 สะท้อนกลับมา
หลังจากนั้นท่านี้ก็ถูกใช้ในศึกปะทะกับกุบิล่า , เรดคิงส์รุ่นที่ 2 , มนุษย์ดาวเมฟิราส
คีย์ล่าร์ และ เซ็ทต้อน แต่ว่ามักถูกสะท้อนกลับมาได้ซะส่วนใหญ่
ลำแสงอุลตร้าแอทแทค : สุดยอดท่าไม้ตายก้นหีบที่ใช้กับ เคโรเนีย เมื่อลำแสงสเปเซี่ยม
ใช้กับมันไม่ได้ผล
ท่านี้จะเป็นการรวบรวมพลังงานทั้งหมดในร่างกาย
แล้วปล่อยออกมาเป็นรูปวงแหวนจากมือข้างขวา
และเมื่อถูกเป้าหมายแล้วคลื่นพลังงานก็จะไปครอบคลุมตัวเคโรเนีย
ทั่วทั้งร่างจนทำให้มันแข็งตัวไปในชั่วพริบตา
จากนั้นอุลตร้าแมนก็จะผสานแขนเป็นรูปกากบาท
แล้วส่งคลื่นพลังจิตพิฆาตออกไป
เพื่อทำให้ เคโรเนีย แหลกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
หลังจากนั้นท่านี้ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้อีกเลย
สายธารอุลตร้า : เป็นท่าที่ฉีดน้ำจำนวนมากออกมาจากปลายนิ้วมือ
โดยการนำ ไฮโดรเจน และ ออกซิเจน ในอากาศมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในตอนดับเพลิงขณะเกิดอัคคีภัยร้ายแรง
โดยในตอนที่ไฟไหม้นิคมอุตสาหกรรมจากฝีมือของ เปสเตอร์
ท่านี้ก็ช่วยดับไฟได้เป็นอย่างดี
ซึ่งตอนนั้นอุลตร้าแมนจะโพสท์ท่าโดยยื่นแขนขวาออกไปข้างหน้า
นอกจากนั้นท่านี้ยังถูกใช้กับ จามิล่าร์ ซึ่งไม่ถูกกับน้ำ
โดยในตอนนั้นอุลตร้าแมนจะประสานมือไว้ตรงอก
แคชริง : มีอีกชื่อหนึ่งว่าลำแสงพันธนาการโดยใช้การหมุนตัวด้วยความเร็วสูงบนหัวของคู่ต่อสู้
เพื่อสร้างโซ่แสงออกมาทั่วร่างแล้วผนึกการเคลื่อนไหวของศัตรูเอาไว้
และจะหมุนตัวลงมาบนพื้นดินโดยที่ยังหมุนไปเรื่อยๆเพื่อคงพลังเอาไว้
ท่านี้ถูกใช้ในตอนที่สู้กับเซ็ทต้อน แต่ในจังหวะที่อุลตร้าแมนหมุนตัวลงมาบนพื้นดิน
ก็ถูกโจมตีด้วยลูกไฟสกัดกั้นการหมุนได้เสียก่อน
ดังนั้นพลังของวงแหวนจึงด้อยลงและถูกฉีกขาดอย่างง่ายดาย
อุลตร้าแอร์แคช : ท่าที่ทำให้ศัตรูหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศโดยใช้พลังจิต
ท่านี้ถูกใช้ในตอนที่สู้กับ เรดคิงรุ่นที่ 2 ที่กลืนระเบิดไฮโดรเจนเข้าไป
เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเรดคิงซึ่งไม่สามารถโจมตีแบบบุ่มบ่ามได้
หลังจากนั้นมันก็ถูกตัดคอและลำตัวด้วยท่ากงจักรแปดเสี้ยว
ซึ่งต้องอาศัยการเขวี้ยงอย่างแม่นยำ
เทเลพอร์เทชั่น : ท่านี้ถูกใช้ในตอนที่ มนุษย์ดาวบัลตั้นรุ่นที่ 2 บุกโจมตีสถานที่ 2 แห่งพร้อมกัน
โดยการเคลื่อนย้ายที่จากดาวเคราะห์ R มายังโลกเพียงชั่วพริบตา
แต่ว่าท่านี้จะทำให้อุลตร้าแมนต้องสูญเสียพลังเป็นอย่างมาก
และทำให้อายุขัยของเขาต้องสั้นลง นี่จึงถือเป็นท่าลับสุดยอด
องค์กรพิทักษ์โลก
หน่วยสืบสวนพิเศษทางวิทยาศาสตร์ SSSP
( Science Special Search Party )
หน่วยงานพิเศษที่สังกัดอยู่ในองค์กรตำรวจวิทยาศาสตร์สากลซึ่งมีภารกิจหลัก คือ การตรวจสอบและคลี่คลายคดีปริศนาทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกโดยมีศูนย์ใหญ่อยู่ที่กรุงปารีสเช่นเดียวกับองค์กรตำรวจสากล ( ICPO ) และมีสาขาย่อยอยู่ทั่วโลก เช่น โตเกียว , นิวยอร์ค , ลอนดอน
อาคารของหน่วยวิทยะสาขาญี่ปุ่นซึ่งมีลักษณะรูปทรงที่ดูโดดเด่นจะตั้งอยู่บริเวณชานกรุงโตเกียว ภายในเหล็กเส้นของอาคารนั้นจะมีโลหะผสมพิเศษที่สามารถกันรังสีความร้อนและแสงแดดได้ ทั้งยังทนต่อการโจมตีจากภายนอกอีกด้วย บนดาดฟ้าอาคารจะมีเรดาห์ , เสาสัญญาณสื่อสาร และ เสารังสีคอสมิก ติดอยู่ ส่วนในตัวอาคารเองจะมีคอมพิวเตอร์สมองกลประสิทธิภาพเยี่ยมติดตั้งอยู่เพื่อทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์ข่าวสารต่างๆและนอกจากจะมีลานจอดยานเจ็ทวีทอลแล้ว ที่นี่ยังมีโรงเก็บยานยนต์อีกหลายชนิดและมีโรงซ่อมด้วย
สมาชิกหน่วย
มุรามัตซึ : มุรามัตซึ โทชิโอะ อายุ 32 ปี หัวหน้าหน่วยสาขาญี่ปุ่นผู้มีบุคลิกภาพดี
( ผู้รับบท : โคบายาชิ โชจิ )
อาราชิ : อาราชิ ไดสุเกะ อายุ 26 ปี นักแม่นปืนประจำหน่วยจอมพลัง ( ผู้รับบท : อิชิอิ อิโยชิ )
อิเดะ : อิเดะ มิตซึฮิโระ อายุ 24 ปี อัจฉริยะผู้คิดค้นอาวุธปราบสัตว์ประหลาด
( ผู้รับบท : นิเฮย์ มาซานาริ )
ฟูจิ อากิโกะ : จนท.หญิงเพียงคนเดียวในหน่วย อายุ 21 ปี
ที่นอกจากจะทำหน้าที่กรองข่าวสารแล้วยังต้องลงพื้นที่ด้วย
( ผู้รับบท : ซากุราอิ ยูโกะ )
ฮายาตะ : สมาชิกผู้เก่งกาจของหน่วยวิทยะ เขาเป็นคนที่สุขุมรอบคอบอยู่เสมอ
แม้แต่ตอนที่เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาในฐานะของอุลตร้าแมน
เขาก็ยังไม่แสดงอาการใดๆทั้งสิ้น
ชื่อจริงของเขา คือ ฮายาตะ ชิน ( ผู้รับบท : คุโรเบะ ซึซึมุ )
โฮชิโนะ อิซามุ : เด็กชายอายุเพียง 11 ปี ที่สามารถเข้าออกหน่วยวิทยะได้เป็นประจำ
ช่วงแรกๆเขาได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมปฏิบัติงานที่ไม่เสี่ยงภัยอยู่ค่อนข้างมาก
เช่น การสำรวจสถานที่เกิดเหตุ ฯลฯ
แต่เจ้าตัวกลับต้องการจะสร้างผลงานด้วยคดีที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
จนถึงขนาดกระทำการตามอำเภอใจตนเอง
อย่างเช่น การแอบลองเข้าไปนั่งในรถของหน่วย
หรือในยานวีทอลหลายต่อหลายครั้ง
หรือตอนที่หยิบปืนสไปเดอร์ไปโดยพละการในศึกปะทะกับเนลองก้า
จากนั้นไม่ทันไรเขาก็ได้ลองสวมชุดเจ้าหน้าที่ในตอนที่เขาเข้าร่วมทีมกู้ภัย
ที่จะเดินทางไปยังดาวเคราะห์ R และด้วยผลจากวีรกรรมที่เขาได้ช่วยเหลือฮายาตะ
ในตอนที่เผชิญหน้ากับบูลต้อน เขาจึงได้รับชุดเจ้าหน้าที่หน่วยมา
( ผู้รับบท : สึซาวะ อาคิฮิเดะ )
จิม : จนท.สังกัดศูนย์ใหญ่ปารีสผู้ร่วมเดินทางไปสำรวจอุกกาบาตในตอนที่ 7
( ผู้รับบท : เอ็ดก้า เคเซอร์ )
แอน โมฮายม์ : จนท.สังกัดศูนย์ใหญ่ปารีสผู้ถูกมนุษย์ใต้พิภพจับตัวไปในตอนที่ 22
( ผู้รับบท : แอนเน็ท ซอนฟาส์ )
โกโต้ : จนท.สาขาโบลิเวียในทวีปอเมริกาใต้ซึ่งที่จริงแล้วคือร่างแปลงของเคโรเนียในตอนที่ 31
( ผู้รับบท : คิริโนะ นาดาโอะ )
ปาตี : จนท.สาขาอินเดียที่เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงวันหยุดในตอนที่ 32 ( ผู้รับบท : มาริ แอน )
ดร.อิวาโมโตะ : นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในศูนย์วิทยาศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาโกเท็น
เขาเป็นผู้ออกแบบพัฒนาอาวุธชนิดต่างๆให้แก่หน่วยวิทยะ
อาทิเช่น ยานเจ็ทวีทอล และอื่นๆอีกมากมาย
และยังเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือในการคลี่คลายคดีต่างๆเป็นจำนวนมาก
( ผู้รับบท : ฮิราตะ อากิฮิโกะ )
อุลตร้าแมนคนอื่นๆที่ปรากฎในซีรีส์เรื่องนี้
ZOFFY
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
อายุ : 2 หมื่น 5 พันปี
สถานที่กำเนิด : อาณาจักรแห่งแสงในเนบิวล่า M78 ( ดาวอุลตร้า )
ความเร็วในการบิน : 10 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 650 กม./ชม.
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 300 น็อต
พลังกระโดด : 450 เมตร
ลักษณะพิเศษ : เขาได้บินลงมายังโลกในสภาพที่เป็นวัตถุทรงกลมสีแดง
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมน ได้พ่ายแพ้ให้กับเซ็ทต้อน
และพยายามจะเกลี้ยกล่อม อุลตร้าแมน ที่กำลังเจียนตาย
ให้กลับไปยังอาณาจักรแห่งแสง
โดยกล่าวว่า "สันติภาพของโลกนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์จะต้องขวนขวายเอาเอง"
แต่ อุลตร้าแมน กลับขอร้องเขาให้ช่วยถ่ายชีวิตของตนไปให้ ฮายาตะ
เขาจึงได้มอบชีวิตใหม่ให้กับ ฮายาตะ และได้แยกร่างของทั้งสองออกจากกัน
แล้วพา อุลตร้าแมน เดินทางกลับไปยังอาณาจักรแห่งแสง
ในเวลานี้เขายังเป็นเพียงสมาชิกหน่วยพิทักษ์อวกาศอยู่
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นไปดำรงตำแหน่ง
เป็นหัวหน้าหน่วยพิทักษ์
อนึ่ง,ปุ่มนูนๆที่ติดอยู่ตรงหน้าอกของเขาจะเรียกกันว่า "สตาร์มาร์ก"
ซึ่งเป็นเครื่องหมายอิสริยยศที่เขาได้รับมา
ในตอนที่เขาสามารถพิชิตกองทัพสัตว์ประหลาดได้
ส่วนปุ่มนูนๆที่อยู่ตรงหัวไหล่นั้นเรียกว่า "อุลตร้าเบรสเตอร์"
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงตำแหน่งของหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อวกาศ
ท่าไม้ตาย และ ความสามารถพิเศษ
ลำแสง M87 : ลำแสงท่าไม้ตายที่ว่ากันว่าทรงอานุภาพมากที่สุดในบรรดาพี่น้องอุลตร้า
ซึ่งจะมีท่วงท่าในการปล่อยลำแสงอยู่ 2 ชนิด ด้วยกัน
คือ ท่าที่ยื่นแขนขวาออกไปข้างหน้า
กับ ท่าที่ต้องประสานทั้งสองแขนให้เป็นรูปตัว L ก่อนที่จะปล่อยออกมา
อนึ่ง,ชื่อของท่านี้ไม่ได้มีความเกี่ยวโยงกับเนบิวล่า M78 แต่อย่างใด
แต่มีความหมายว่า "ลำแสงความร้อนแห่งปาฏิหาริย์ซึ่งมีความร้อนสูงถึง 870,000 องศา
และถือเป็นสถิติอวกาศอย่างเป็นทางการของอาณาจักรแห่งแสง"
ลำแสง Z : ลำแสงสายฟ้าที่ปล่อยออกมาจากปลายมือทั้งสองข้างที่ประกบกัน
ซึ่งเป็นท่าที่สามารถทำให้ เบิร์ดด้อน ล้มลงได้
แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้มันได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก
อุลตร้าฟรอสท์ : ก๊าซแช่แข็งที่พ่นออกมาจากมือทั้งสองข้างที่นำมาประกบกัน
โซฟี่ได้ใช้ท่านี้แช่แข็งร่างของ ทาโร่ ที่ถูก เบิร์ดด้อน เล่นงาน
เพื่อพาตัวกลับไปรักษายังดาวอุลตร้า
อุลตร้าทวิงเคิลเวย์ : ทางแห่งแสงที่ใช้ในการขนย้ายวัตถุทะลุข้ามห้วงมิติอวกาศ
ซึ่ง โซฟี่ ได้ใช้ทางแห่งแสงนี้พาตัวทาโร่
ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูก เบิร์ดด้อน โจมตี
ไปยังดาวอุลตร้าเพื่อให้ เจ้าแม่อุลตร้า รักษา
อุลตร้าคอนเวอร์เตอร์ : เบรสเล็ทรูปทรงกากบาทที่ โซฟี่ นำมาสวมใส่ให้กับเอส
เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังงานให้กับ เอส ที่กำลังจะหมดแรง
อุลตร้าแมจิกเรย์ : อุปกรณ์รูปทรงหลายเหลี่ยมที่จะปลดปล่อยพลังงานแรงสูงออกมา
โซฟี่ได้โยนมันลงมาจากฟ้า เพื่อทำให้น้ำในทะเลสาบระเหยไปอย่างรวดเร็ว
เพื่อช่วย เอส ที่กำลังต่อสู้ใต้น้ำกับ ดรีมกิราส อย่างยากลำบาก
ตอนที่ 1 "ปฏิบัติการอุลตร้าหมายเลข 1"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดอวกาศ BEMLAR
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาว M35
อาวุธ : พ่นลำแสงความร้อนสีน้ำเงินออกมาจากปาก , โจมตีด้วยการกัด
ลักษณะพิเศษ : อสูรจอมวายร้ายซึ่งถูกขนานนามว่า "สัตว์ประหลาดปีศาจ"
มันได้หลบหนีออกมาในขณะที่ถูกอุลตร้าแมนนำตัวไปส่งยังสุสานอวกาศ
โดยการแปลงเป็นวัตถุทรงกลมสีน้ำเงินแล้วเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง
หลบหนีมายังโลก
มันได้หลบซ่อนตัวอยู่ในทะเลสาบริวงาโมริ
เพื่อพักฟื้นความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางในอวกาศเป็นเวลานาน
แต่ทว่าด้วยปฏิบัติการอุลตร้าหมายเลข 1 ของหน่วยวิทยะ
จึงทำให้มันต้องปรากฎออกมาจากการถูกยิงจนควันตลบ
เนื่องจากแขนของมันสั้นจึงทำให้มันไม่ถนัดในการต่อสู้ระยะประชิด
การโจมตีไปที่ลำตัวจึงถือเป็นจุดอ่อนของมัน
มันถูกลำแสงสเปเซี่ยมพิชิตลงก่อนที่จะแปลงร่างเป็นวัตถุทรงกลมสีน้ำเงิน
เพื่อหลบหนีอีกครั้ง
ตอนที่ 2 "ปะทะผู้รุกราน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : นินจาอวกาศ BALTAN
ความสูง : ไมโคร ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 0 ~ 1 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวบัลตั้น
อาวุธ : วิชาแยกร่าง , เทเลพอร์ท , การยืดหดร่างได้ตามใจชอบ ,
ลำแสงทำลายและลำแสงแช่แข็งสีแดงที่ยิงออกจากก้าม
ลักษณะพิเศษ : ดาวบ้านเกิดของมันถูกระเบิดไปโดยการทดลองของนักวิทยาศาสตร์
ผู้คลุ้มคลั่งคนหนึ่ง
ประชากรกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างการท่องเที่ยวบนอวกาศในขณะนั้น
จึงต้องกลายเป็นผู้เร่ร่อน
แต่แล้วพวกมันก็เกิดถูกใจดาวโลกซึ่งเป็นที่จอดแวะซ่อมแซมยานอวกาศขึ้นมา
จึงได้คิดวางแผนช่วงชิง
มันมีผิวหนังที่แข็งแกร่งซึ่งทนทานได้แม้กระทั่งนิวเคลียร์มิซไซล์
ทว่า,มันกลับแพ้ต่อสเปเซี่ยมซึ่งเป็นสสารที่อยู่บนดาวอังคาร
ฉะนั้นมันจึงถูกโค่นลงด้วยลำแสงสเปเซี่ยมอย่างง่ายดาย
ยานอวกาศของพวกมันเองก็ถูกอุลตร้าแมนทำลายลงด้วยเช่นกัน
ทว่า,การรุกรานโลกของมนุษย์ดาวบัลตั้นเพิ่งจะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
ยานอวกาศของมนุษย์ดาวบัลตั้น : เดิมเป็นยานสำหรับใช้ในการท่องเที่ยวอวกาศ
ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ 2030 ล้านคน
นอกจากพวกมันคนหนึ่งซึ่งอยู่ในร่างปกติแล้ว
คนอื่นๆจะทำการย่อร่างให้มีขนาดเล็กลงเท่ากับแบคทีเรีย
และจำศีลอยู่ภายในยาน
ตอนที่ 3 "หน่วยวิทยะออกปฏิบัติการ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดล่องหน NERONGA
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ภูเขาอิวามิ จังหวัดอิซึ
อาวุธ : ลำแสงทำลายซึ่งเกิดจากการประสานหนวดทั้ง 2 ข้างเอาไว้ที่เขา ,
กระโดดเข้าโจมตี , โจมตีด้วยหาง
ลักษณะพิเศษ : มันเคยอาศัยอยู่ในบ่อน้ำเก่าของปราสาทที่ตั้งอยู่บนภูเขาอิวามิเมื่อ 300 ปีก่อน
และได้เรียนรู้ถึงวิธีการแปลงไฟฟ้ามาเป็นพลังงาน
จึงได้ทำการดูดกลืนไฟฟ้าจากสายเคเบิ้ลใต้ดินจนมีร่างกายขยายใหญ่ขึ้น
ด้วยผลจากการทำงานของอิเล็คตรอน อิอ้อน จึงทำให้มันสามารถล่องหนได้
ในอดีตมันเคยถูกซามูไรที่มีนามว่า มุราอิโกเอม่อน กำราบลง
หลังจากที่มันเข้าจู่โจมโรงไฟฟ้าและสถานีย่อยตามสถานที่ต่างๆแล้ว
มันก็ได้ไปปะทะกับ หน่วยวิทยะ และ กองพลอาวุธปืนแห่งกองกำลังป้องกัน
ที่สถานีจ่ายพลังงานความร้อนหน่วย 3
แต่สุดท้ายมันก็ถูก ลำแสงสเปเซี่ยม ของอุลตร้าแมนยิงจนระเบิดตายไปในที่สุด
ตอนที่ 4 "5 วินาทีก่อนการระเบิดครั้งใหญ่"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณ RAGON
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ใต้มหาสมุทรลึก
อาวุธ : พลังอันมหาศาล , ยิงลำแสงสีขาวออกจากปาก
ลักษณะพิเศษ : มันมีขนาดร่างกายใหญ่ขึ้นเนื่องจากผลกระทบทางกัมมันตภาพรังสี
จากการระเบิดของระเบิดปรมาณูซึ่งใช้ในการบุกเบิกดาวพฤหัส
ขณะที่มันแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรจะเห็นเป็นรอยทางสีขาวได้อย่างเด่นชัด
มันได้ทำลายเรือเดินสมุทรในระหว่างทางที่กำลังเข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่น
โดยมีระเบิดปรมาณูติดตัวอยู่ 1 ลูก
ทั้งนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลจากกัมมันตภาพรังสีหรือเปล่า
จึงทำให้แม้แต่นิสัยที่ชอบฟังดนตรีของมันเปลี่ยนไป
โดยพอมันได้ฟังเสียงดนตรีแล้วกลับจะยิ่งมีนิสัยดุร้ายขึ้น
มันต้องประมือกับอุลตร้าแมนหลังจากขึ้นฝั่งมาที่ฮายามะ มารีน่า
โดยใช้วิธีเข้ารัดคออุลตร้าแมนที่พยายามจะกู้ระเบิดคืน
แต่พอระเบิดปรมาณูหลุดออกไป
มันก็ถูก ลำแสงสเปเซี่ยม เล่นงานจนจมหายไปในทะเล
จรวดที่ใช้ในการบุกเบิกดาวพฤหัส ML-1 : ยานลำนี้ได้บรรจุระเบิดปรมาณู
สำหรับใช้ในการบุกเบิกดาวพฤหัสถึง 6 ลูก
ไว้ในคอนเทเนอร์ทรงกลมที่อยู่กลางลำ
หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ระเบิดปรมาณู 1 ลูก
จึงได้ระเบิดขึ้นที่ใต้ท้องสมุทร 5000 เมตร
ตอนที่ 5 "ความลับของมิโรกันด้า"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : พืชประหลาด GREENMONS
ความสูง : 2 ~ 40 เมตร
น้ำหนัก : 10 ~ 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : เกาะโออิริส
อาวุธ : สารยาสลบสีเขียวที่ปล่อยออกมาจากกลีบดอก
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่แท้จริงของมิโรกันด้าพืชยุคดึกดำบรรพ์
ที่ทางคณะสำรวจเกาะโออิริสได้นำกลับมา
หลังจากมิโรกันด้าได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์ด้วยวิธีการฉายรังสีแกมม่าแล้ว
มันจึงสามารถกลับไปเป็นพืชกินแมลงในช่วงที่ยังเป็นต้นเล็กๆได้
ทั้งยังสามารถขยายร่างให้มีขนาดใหญ่เท่ามนุษย์ได้อีกด้วย
มันสามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ
จึงได้เฝ้าหาโอกาสเล่นงานสมาชิกในคณะสำรวจที่ได้ดื่มน้ำในลำธารเข้าไป
เพื่อต้องการแร่ซิลิก้าที่เจือปนอยู่ในลำธารบนเกาะ
นอกจากนั้นมันยังสามารถเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้อ่อนนิ่ม
เพื่อลอดเข้าไปในช่องประตูได้
มันดูดกลืนพลังงานจากปืนซูเปอร์กันที่ได้รับจนกลายร่างใหญ่ขึ้น
และปรากฎตัวในเมืองมารุโนะอุจิกลางดึก
แต่สุดท้ายก็ต้องถูกเผาจนมอดไหม้ด้วย ลำแสงสเปเซี่ยม ของอุลตร้าแมน
มิโรกันด้า : ดอกไม้อันงดงามที่เบ่งบานในบริเวณลำธารบนเกาะโออิริส
มันเติบโตได้โดยการดูดน้ำในลำธารซึ่งมีแร่ซิลิก้าเจือปนอยู่
ตอนยังเป็นต้นเล็กๆมันคือพืชกินแมลงที่สามารถโจมตีมนุษย์ได้
เมื่อ ดร.ยามาดะ นักวิชาการทางพฤกศาสตร์ได้ฉายรังสีแกมม่าเข้าไป
มันจึงกลายร่างเป็นกรีนมอนส์
หลังจากที่สังหาร ดร.ยามาดะ แล้วมันก็เข้าจู่โจม ดร.มัตซึโอะ , ดร.ซาคาอิ
และนักข่าวโคบายาชิ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ดื่มน้ำในลำธารเข้าไปเพื่อต้องการแร่ซิลิก้า
ตอนที่ 6 "คำสั่งคุ้มกันชายฝั่ง"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อสูรแห่งผืนสมุทร GUESRA
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : บราซิล
อาวุธ : พลังอันมหาศาล , หนามพิษ
ลักษณะพิเศษ : ร่างเดิมของมันคือกิ้งก่าครี่งบกครึ่งน้ำที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้
ซึ่งถูกเรือบรรทุกสินค้านำพามายังประเทศญี่ปุ่น
มันเป็นสัตว์ที่ให้คุณประโยชน์โดยการล่า ผึ้งเกลัน ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจ
ที่ชอบมารุมตอมเมล็ดโกโก้มากินเป็นอาหาร
แต่ด้วยผลจากสารปนเปื้อนในแถบอ่าวโตเกียว
จึงทำให้มันกลายเป็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์
จากนั้นมันจึงได้จู่โจมเรือพาณิชย์ที่บรรทุกโกโก้มา
เมื่อมันได้ยินเสียงดังๆหรือได้รับการกระตุ้นอย่างรุนแรง
มันจะแสดงนิสัยที่ดุร้ายออกมาจนถึงขั้นรับมือไม่อยู่
ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะโจมตีแบบบุ่มบ่ามได้
จุดอ่อนของมันจะอยู่ที่การจับจงอยสีเหลืองบนหัว
แต่ตรงบริเวณรอบๆจงอยนั้นจะมีหนามพิษยื่นโผล่อยู่
ฉะนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากในการจะจับจงอยของมันได้
ตอนที่ 7 "ศิลาฟ้าในนครบาลาจ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดพลังแม่เหล็ก ANTLAR
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ทะเลทรายละแวกเมืองบาลาจ
อาวุธ : ลำแสงคลื่นแม่เหล็กเจ็ดสี , ทรายดูด , ขากรรไกรขนาดใหญ่ ,
พรางตาด้วยควันทราย , เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในทราย
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่ทำรังอยู่ในทะเลทรายรอบ นครบาลาจ ซึ่งเป็นเมืองในตำนาน
ที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาอารรัฐ และมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล
หลังจากที่อุกกาบาตตกลงมามันก็เริ่มเปิดฉากเคลื่อนไหวอีกครั้ง
โดยการใช้ลำแสงพลังแม่เหล็กดูดเครื่องบินให้เข้ามาใกล้แล้วจับมาเป็นเหยื่อ
มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งทนทานมากถึงขนาดที่ลำแสงสเปเซี่ยม
ของอุลตร้าแมนเองก็ยังทำอะไรมันไม่ได้แม้แต่น้อย
แต่ทว่า,หินสีฟ้าที่อยู่ในอารามของนครบาลาจกลับเป็นสิ่งที่มันเกรงกลัว
กัปตันมุรามัตซึจึงได้เขวี้ยงหินสีฟ้าใส่มันจนเกิดการระเบิดไปทั่วร่าง
แล้วสิ้นใจตายในที่สุด
เทพโนอา : รูปปั้นหินที่มีลักษณะคล้ายอุลตร้าแมนซึ่งถูกเคารพบูชาไว้ในอารามหลวง
ของนครบาลาจ โดยจะทำท่าถือหินสีฟ้าเอาไว้ในมือ
เฌอแตม : เธอคือสาวงามซึ่งเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์บาลาจ
และสามารถใช้พลังโทรจิตได้
( ผู้รับบท : ยูมิ เคย์โกะ )
ตอนที่ 8 "แดนสัตว์ประหลาดที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดโครงกะโหลก REDKING
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : เกาะทาทาระ
อาวุธ : พลังอันมหาศาล , โจมตีด้วยก้อนหิน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะทาทาระ
ด้วยนิสัยที่บ้าดีเดือดของมัน มันจึงชอบเขวี้ยงปาก้อนหินแบบไม่ยั้ง
เนื่องจากมันมีใบหน้าที่ดูคล้ายกับกะโหลกศีรษะของมนุษย์
มันจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า "สัตว์ประหลาดโครงกะโหลก"
ส่วนคำว่า "เรด" ที่อยู่ในชื่อของมัน ทั้งๆที่ตัวมันเป็นสีขาวนั้น
คาดว่าคงจะมาจากลักษณะนิสัยของมันที่ชอบเห็นเลือดสีแดงสด
มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่ค่อยจะฉลาดนัก
เลยมักจะเข้าโหมบุกอย่างเดียวโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
ดังนั้นมันจึงไล่ตามการเคลื่อนไหวของ อุลตร้าแมน ไม่ทันจนหมดกำลังลง
แล้วถูกท่าเซโออินาเงะ ( ท่าทุ่มหัวไหล่แขนเดียว ) จับทุ่มกระแทกพื้นดิน
จนสิ้นใจไป
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดมีปีก CHANDRA
ความสูง : 36 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : เกาะทาทาระ
อาวุธ : ใช้ปีกสร้างลมกรรโชก , โจมตีโดยการกัดด้วยเขี้ยวที่แหลมคม
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่มีปีกแต่บินไม่ได้
มันได้ออกมาอาละวาดท้าสู้กับเรดคิงเพื่อชิงความเป็นเจ้าบัลลังก์บนเกาะ
และได้พยายามต่อสู้อย่างเต็มกำลังโดยใช้เขี้ยวกัดเรดคิงจนเลือดไหลได้
ทั้งๆที่เรดคิงเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด
ทว่า,กลิ่นคาวเลือดนั้นเองกลับทำให้เรดคิงมีแรงฮึดสู้มากขึ้นกว่าเดิม
แล้วจับปีกข้างขวาของมันฉีกกระชากออกจนมันต้องพ่ายแพ้กลับไป
และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครทราบได้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่หรือตาย
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพ MAGULAR
ความยาว : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : เกาะทาทาระ
อาวุธ : เคลื่อนที่ใต้ดินได้อย่างอิสระ , หางท่อนยาว
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่มีผิวหนังสีดำขรุขระดูน่าเกรงขาม
แต่กลับมีนิสัยขี้ขลาดไม่สมกับที่เห็นจากภายนอก
โดยพอมันเห็นศัตรูที่ท่าทางแข็งแกร่งเข้าหน่อยก็รีบมุดหนีลงไปในดินทันที
แต่กับหน่วยวิทยะแล้วมันคงคิดว่าจะเอาชนะได้
จึงได้บุกจู่โจมใส่ ฮายาตะ กับ มุรามัตซึ แต่สุดท้ายก็ต้องมาตายแบบง่ายๆ
โดยการโจมตีด้วยระเบิดนาปาล์มในระยะประชิด
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อสูรกายที่เป็นมิตร PIGMON
ความสูง : 1 เมตร
น้ำหนัก : 10 กิโลกรัม
สถานที่ปรากฎ : เกาะทาทาระ
อาวุธ : ไม่มี
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่มีนิสัยรักสงบและคอยให้ความช่วยเหลือมนุษย์
มันคือผู้ที่นำน้ำและเสบียงอาหารมาให้ มัตซึอิ จนท.ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว
ในสถานีตรวจสภาพอากาศบนเกาะทาทาระ
มันได้แสดงความเฉลียวฉลาดออกมา
โดยการนำทางหน่วยวิทยะให้ไปพบกับ จนท.มัตซึอิ ได้
นอกจากนี้มันยังมีความห้าวหาญมากผิดกับรูปร่างเล็กๆของมัน
ด้วยการไปท้าทายเรดคิงที่บุกโจมตีเข้ามา
และมันก็สามารถล่อหลอกเรดคิงให้หัวหมุนได้
ด้วยการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วว่องไว
แต่สุดท้ายมันกลับถูกโจมตีด้วยก้อนหินจนต้องจบชีวิตลงไปอย่างน่าเศร้า
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : พืชประหลาด SUFLAN
ความยาว : 100 เมตร
น้ำหนัก : 8 ตัน
สถานที่ปรากฎ : เกาะทาทาระ
อาวุธ : ใช้ใบไม้เลื้อยเข้ารัดเหยื่อแล้วสูบเลือด
ลักษณะพิเศษ : พืชดูดเลือดขนาดยักษ์ที่แพร่กระจายอยู่ตามเกาะต่างๆในมหาสมุทรแปซิฟิก
โดยปกติแล้วมันจะห้อยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่
และจะคอยจู่โจมสัตว์ที่เดินผ่านไปมาอยู่ด้านล่าง
ใบของมันจะไม่ทนทานต่อไฟนัก แต่ตราบใดที่ยังไม่ถอนรากถอนโคนของมัน
ออกมา มันก็ยังคงมีชีวิตเคลื่อนไหวได้อยู่
มันได้จับ จนท.คาวาดะ หนึ่งในผู้รอดชีวิตของสถานีตรวจสภาพอากาศ
บนเกาะทาทาระไปเป็นเหยื่อ ซ้ำยังได้เข้าจู่โจม จนท.อิเดะ กับ ฟูจิ อีก
แต่ด้วยปืนสไปเดอร์ช็อตของอาราชิจึงทำให้มันต้องล่าถอยไป
ตอนที่ 9 "ปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแล่บ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดยูเรเนี่ยม GAVORA
ความยาว : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ใต้ดิน → เมืองอุนาริ
อาวุธ : ยิงลำแสงยูเรเนี่ยมออกมาจากปาก , ฟาดหาง
ลักษณะพิเศษ : มันได้ปรากฎตัวขึ้นมาเหนือพื้นดินเพื่อต้องการแร่ยูเรเนี่ยม 235
ซึ่งเป็นของโปรดของมัน
มีข่าวว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนพบเห็นการปรากฎตัวของมันมาแล้ว
ดังนั้นชื่อเสียงของมันจึงกลายเป็นที่รู้จักกันดีในละแวกนั้น
ปกติมันจะใช้แผงครีบตรงลำคอคอยปกปิดส่วนหัว
และใช้ในการขุดเจาะลงไปในดิน
ส่วนผิวหนังของมันมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล็กกล้าถึง 5 เท่า
มันจะกางครีบออกมาเฉพาะในเวลาที่ต่อสู้กับศัตรูกับตอนที่กินแร่ยูเรเนี่ยมเท่านั้น
และในขณะที่มันกินยูเรเนี่ยมอยู่นั้นมันก็จะแผ่กัมมันตรังสีออกมาด้วย
ฉะนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากในการที่จะปราบมันลงได้
มันได้มุ่งหน้าไปที่คลังเก็บยูเรเนี่ยมในเมืองอาเบะ
แต่กลับถูกรถปืนไฟยิงสกัดกั้นไปเสียก่อน
จากนั้นมันจึงถูกเฮลิคอปเตอร์ซึ่งแขวนแคปซูลบรรจุยูเรเนี่ยม
หลอกล่อให้เข้าไปในภูเขา
แล้วสุดท้ายอุลตร้าแมนก็จัดการกระชากแผงครีบของมันออก
และเข้าระดมโจมตีมันจนสิ้นใจไปในที่สุด
ตอนที่ 10 "ฐานทัพไดโนเสาร์ปริศนา"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ไดโนเสาร์แผงคอ JIRAHS
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ทะเลสาปเนส → ทะเลสาปคิตายามะ
อาวุธ : ยิงลำแสงความร้อนสีขาวออกมาจากปาก
ลักษณะพิเศษ : ไดโนเสาร์ที่ ศจ.นิไคโด ซึ่งปลอมตัวเป็น ดร.นากามุระ คอยเลี้ยงดูเอาใจใส่
มาเป็นอย่างดีในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ลือกันว่า ศจ.ได้นำมันกลับมา
ตั้งแต่ตอนที่เดินทางไปสำรวจทะเลสาปล็อคเนส
มันรู้สึกทรมานกับ ผงคาร์ไบด์ ที่นักตกปลาโปรยลงไปจึงได้โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ
มันมีสติปัญญาที่ค่อนข้างฉลาดโดยดูจากการที่มันลองเปรียบเทียบฝีมือ
กับอุลตร้าแมนเพื่อหยั่งเชิงดูก่อน
แต่สุดท้ายมันก็ถูกอุลตร้าแมนกระชากแผงคอออก
แล้วพ่ายแพ้ไปด้วยท่าอุลตร้าตัดหมอก
ตอนที่ 11 "จอมอาละวาดจากอวกาศ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดคลื่นสมอง GANGO
ความสูง : 2.2 ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 60 ~ 6 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : อวกาศ → ชานเมืองโตเกียว
อาวุธ : พลังอันมหาศาล , เล่นตุกติก
ลักษณะพิเศษ : หินอุกกาบาตที่แปรสภาพได้ตามคำพูดและใจนึก
ได้กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดด้วยคำสั่งของโอนิดะ
ตอนแรกมันยังเป็นสัตว์ประหลาดตัวเล็กๆที่สูงเพียง 2 เมตร
และเอาแต่เที่ยวซนเกเรไปทั่ว
แต่ด้วยคำสั่งของโอนิดะจึงทำให้มันยิ่งขยายร่างยักษ์ขึ้นไปอีก
และด้วยผลลัพธ์นั้นจึงทำให้โอนิดะต้องล้มหมดสติไป
แต่ว่าหินนั่นก็ยังคงกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดเที่ยวออกอาละวาดอยู่
เพราะจิตของโอนิดะยังไม่สูญหายไป
แม้แต่การกระหน่ำโจมตีด้วยปืนใหญ่อย่างหนักหน่วง
ก็ยังทำอะไรมันไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
แต่ที่จริงแล้วเสาอากาศตรงใบหูของมันค่อนข้างที่จะเปราะบาง
ขณะที่มันกำลังต่อสู้กับอุลตร้าแมน อยู่ดีๆโอนิดะก็ฟื้นขึ้นมา
แล้วลืมเรื่องแกงโก๊ะไปซะอย่างงั้น ร่างของมันจึงได้สลายหายไป
หินมีชีวิต : หินแร่ซึ่งมีความสามารถของสิ่งมีชีวิตที่ตกลงมาบนโลก
มันจะเปลี่ยนร่างได้ตามใจชอบแล้วแต่ความนึกคิดและคำพูดของมนุษย์
ที่อยู่ภายในรัศมี 2 เมตร
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตมันก็สามารถแปรสภาพได้ทั้งนั้น
แถมยังไม่จำกัดขนาดอีกต่างหาก
แต่ในที่สุด อุลตร้าแมน ก็ได้ส่งมันกลับไปยังอวกาศ
ตอนที่ 12 "เสียงกู่ร้องของมัมมี่"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดมัมมี่ DODONGO
ความสูง : 30 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : เนินโอนิโนะได
อาวุธ : ยิงลำแสงทำลายออกมาจากดวงตา
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่หลับอยู่ใต้ภาพฝาผนังภายในถ้ำ
ที่เก็บรักษามัมมี่ไว้เมื่อสมัย 7,000 ปีก่อน
มันได้ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงร้อง ( โทรจิต ) ในช่วงจังหวะวาระสุดท้ายของ มัมมี่
ผู้เป็นนายของมัน
จากนั้นมันจึงวิ่งรุดมาที่กรุงโตเกียวอย่างรวดเร็วเพื่อมาช่วยเจ้านาย
ลำแสงที่ยิงออกมาจากดวงตาของมันจะเป็นแบบเดียวกับมัมมี่
แต่จะมีพลังทำลายที่รุนแรงกว่าหลายเท่า
แต่สุดท้ายดวงตาของมันก็ถูกปืนสไปเดอร์ช็อตเล่นงานจนยิงลำแสงออกมาไม่ได้
จากนั้นจึงถูกเผด็จศึกลงด้วยลำแสงสเปเซี่ยม
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อมนุษย์มัมมี่ MUMMY MAN
ความสูง : 2 เมตร
น้ำหนัก : 110 กิโลกรัม
สถานที่ปรากฎ : เนินโอนิโนะได
อาวุธ : พลังอันมหาศาล , ยิงลำแสงออกมาจากดวงตา
ลักษณะพิเศษ : มัมมี่ที่อยู่ในสภาพจำศีลมาตั้งแต่ 7,000 ปีก่อน
มันได้ใช้พลังจิตควบคุมเครื่องวัดให้ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงออกมาใส่ตัวเอง
เพื่อฟื้นคืนชีพในช่วงกลางดึก ณ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ที่มันถูกส่งมา
จากนั้นมันก็ออกอาละวาดไปทั่วด้วยพละกำลังอันมหาศาล
เพื่อที่จะกลับไปยังถ้ำซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของมัน
แต่ว่ามันก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยปืนสไปเดอร์ช็อต
ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะเป็นบรรพบรุษของมนุษย์หรือไม่นั้น
ก็ไม่มีคำตอบเป็นที่แน่ชัดนัก
ตอนที่ 13 "วิกฤติน้ำมัน SOS"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อสูรน้ำมัน PESTAR
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ตะวันออกกลาง → เคย์ฮิง
อาวุธ : พ่นเปลวไฟออกมาจากปาก
ลักษณะพิเศษ : มันชอบกินน้ำมันเป็นอาหาร ดังนั้นมันจึงจ้องแต่จะบุกโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน
และบ่อน้ำมันอยู่ท่าเดียว
เวลาที่มันเคลื่อนที่ใต้ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว
มันจะเปล่งแสงประหลาดสีฟ้าๆออกมาด้วย
ภายในกระเพาะของมันจะบรรจุไปด้วยน้ำมัน
ฉะนั้นมันจึงเปรียบเสมือนกับระเบิดเคลื่อนที่ดีๆนี่เอง
หลังจากที่มันเที่ยวอาละวาดในแถบตะวันออกกลางแล้ว
มันจึงได้บุกมาโจมตีที่ญี่ปุ่นต่อ
แต่หน่วยวิทยะได้ใช้แผนล่อมันออกไปนอกอ่าวแล้วกะจะจุดไฟให้ระเบิดขึ้นที่นั่น
แต่ว่า อิเดะ กลับทำพลาดไปจนทำให้มันขึ้นฝั่งมาได้ในสภาพที่เจ็บหนัก
ทว่า,ผลสุดท้ายมันก็ถูก ลำแสงสเปเซี่ยม ยิงเข้าที่หัวจนสิ้นใจไป
ตอนที่ 14 "คำสั่งพิทักษ์หอยไข่มุก"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดพ่นน้ำ GAMAKUJIRA
ความยาว : 35 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ชายฝั่งทะเลอิเซะ
อาวุธ : พ่นน้ำที่มีความร้อนสูงออกมาจากกลางหลัง
ลักษณะพิเศษ : ของโปรดของมันคือเนื้อไข่มุก มันจึงได้บุกเข้าไปสร้างความเสียหาย
ให้กับหอยไข่มุกในแถบอิเซะชิมะจนถึงขั้นวิกฤติ
แล้วใช้ลิ้นยาวๆของมันดูดกลืนไข่มุกเข้าไป
มันจะปลดปล่อยความเสียหายที่โดนโจมตีจากภายในร่างกายออกมา
ด้วยการพ่นน้ำ
แล้วจะทำให้ร่างกายของมันมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
หลังจากที่มันถูกกระสุนหัวไอพ่นขนาดจิ๋วยิงจนลอยขึ้นฟ้าไปแล้ว
อุลตร้าแมนจึงได้บินพุ่งเข้าชนมันจนแหลกสลายไป
ตอนที่ 15 "รังสีคอสมิกที่น่าสะพรึงกลัว"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดจากมิติที่สอง GAVADON ( A )
ความยาว : 30 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ชานเมืองโตเกียว
อาวุธ : หางท่อนยาว
ลักษณะพิเศษ : แสงอาทิตย์กับรังสีที่ประกอบด้วยธาตุชนิดใหม่ซึ่งมีรังสีคอสมิกปะปนอยู่
เกิดการรวมตัวกันจนทำให้วัตถุ 2 มิติ สามารถกลายเป็นวัตถุ 3 มิติได้
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ภาพวาดสัตว์ประหลาดของหนูน้อยมุชิบะ
เกิดมีชีวิตจริงขึ้นมา
และเมื่อตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าร่างของมันก็จะกลายเป็น 3 มิติ
แต่พอตะวันตกดินมันก็จะกลับไปเป็นภาพวาดดังเดิม
ถึงแม้ว่าหางของมันจะถูกมิซไซล์ยิงโจมตีจนขาดสะบั้นไป
แต่มันกลับไม่รู้สึกรู้สาแต่อย่างใด แถมยังเอาแต่นอนกลางวันอยู่ท่าเดียว
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดจากมิติที่สอง GAVADON ( B )
ความยาว : 60 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ชานเมืองโตเกียว
อาวุธ : พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : กาวาด้อนที่พวกเด็กๆได้วาดขึ้นมาใหม่เพื่อให้มันมีความสามารถหลายๆอย่าง
เพิ่มขึ้น เช่น สามารถพ่นก๊าซพิษและใช้ฟันบดขยี้เพชรได้ เป็นต้น
แต่ว่าเดิมมันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีนิสัยขี้เกียจอยู่แล้ว
จึงมักจะเอาแต่นอนหลับเป็นประจำ
และด้วยความที่มันนอนกรนเสียงดังจนไปทำลายชีวิตความสงบสุข
ของประชาชนชาวเมือง อุลตร้าแมนจึงจำต้องนำตัวมันออกไปยังอวกาศ
ตอนที่ 16 "หน่วยวิทยะมุ่งหน้าสู่อวกาศ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : นินจาอวกาศ ALIEN BALTAN ( รุ่นที่ 2 )
ความสูง : ไมโคร ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 0 ~ 1 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวเคราะห์ R
อาวุธ : แสงสะท้อนสเปลเก้น , บาเรียคลื่นแสง , พายุแรงโน้มถ่วง
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ดาวบัลตั้นที่มีชีวิตเหลือรอดจากยานอวกาศที่ถูกทำลายไป
ได้โยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่บนดาวเคราะห์ R
แล้ววางแผนที่จะกลับมารุกรานโลกอีกครั้ง
พวกมันได้บุกเข้าโจมตีมากันเป็นกลุ่มใหญ่
โดยมียานแม่ซึ่งมีลักษณะคล้ายอุกกาบาตสีน้ำเงินเป็นใจกลาง
คราวนี้มันได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสื่อสารทางโทรจิต
และการเข้าสิงร่างให้เป็นที่ประจักษ์
มิหนำซ้ำ,มันยังสามารถป้องกันได้แม้กระทั่ง ลำแสงสเปเซี่ยม ที่พวกมันรังเกียจ
ด้วยแสงสะท้อนสเปลเก้นและบาเรียคลื่นแสงได้อีกต่างหาก
ด้วยเหตุนี้อุลตร้าแมนจึงถูกมันไล่ต้อนเสียจนมุม
แต่สุดท้ายมนุษย์ดาวบัลตั้นก็ต้องถูกผ่าออกเป็นสองเสี่ยง
ด้วยท่า กงจักรแปดเสี้ยว ซึ่งเป็นท่าใหม่ของอุลตร้าแมน
ตอนที่ 17 "พาสปอร์ตที่ไร้ข้อจำกัด"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดจากมิติที่สี่ BULLTON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : เขตไร้แรงโน้มถ่วง → ทะเลทรายบาโรน → ฐานทัพหน่วยวิทยะ
อาวุธ : ยื่นเสาออกมาจากโพรงรอบกายแล้วทำให้เกิดปรากฏการณ์ 4 มิติต่างๆ
( เสาที่มีเส้นขน 4 เส้น = ทำให้ห้วงมิติบิดเบี้ยวเพื่อหลบเลี่ยงกระสุน ,
เสาที่มีลักษณะเหมือนไม้ตีฟอง = ลากคู่ต่อสู้ไปยังโลก 4 มิติ ,
เสาที่มีแสงแฟลช = ใช้พลังจิตควบคุมคู่ต่อสู้ได้อย่างอิสระ )
ลักษณะพิเศษ : อุกกาบาตสีแดงกับสีน้ำเงินที่ตกลงมาในทะเลทรายบาโรนถูกฉายรังสีอินฟราเรด
สเปคคูล่าจนทำให้นิวเคลียสของมันเกิดการรวมตัวกันแล้วขยายขนาดใหญ่ขึ้น
มันได้ตกลงมาจากช่องว่างแห่งมิติเวลาแล้วสร้างความปั่นป่วนให้กับหน่วยวิทยะ
และกองกำลังป้องกันด้วยปรากฏการณ์ 4 มิติต่างต่างนานา
แต่สุดท้ายมันก็ถูกกำจัดลงด้วยลำแสงสเปเซี่ยม
ตอนที่ 18 "พี่น้องผู้มาจากดาวนพเคราะห์"
ศัตรูที่ปรากฎ : THE IMIT-ULTRAMAN
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ย่านอาคารในกรุงโตเกียว
อาวุธ : พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : ร่างแปลงของมนุษย์ดาวซารับ
เมื่อเปรียบเทียบกับอุลตร้าแมนตัวจริงแล้วมันจะมีรูปร่างที่ผอมเพรียวกว่าเล็กน้อย
ดวงตาและใบหูของมันจะเชิดแหลมขึ้นดูส่อเค้าความชั่วร้าย
และที่ลำตัวของมันจะมีเส้นสีดำพาดผ่านอยู่
หลังจากที่มันโดนลำแสงสปเซี่ยมเข้าไป สุดท้ายมันก็เผยร่างที่แท้จริงออกมา
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวจอมวายร้าย ALIEN ZARAB
ความสูง : 1.8 ~ 40 เมตร
น้ำหนัก : 30 ~ 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวซารับในหมู่ดาวกาแลคซี่ที่ 8
อาวุธ : คลื่นความถี่สูง , ยิงกระสุนแสงออกมาจากฝ่ามือ , วิชาสะกดจิต ,
ความสามารถในการแปลงร่าง , บิน
ลักษณะพิเศษ : คำว่า "ซารับ" ในภาษาของพวกมันหมายถึง "พี่น้อง"
ซึ่งภารกิจของมันก็คือการทำให้ดวงดาวที่พวกมันหมายตาไว้ปั่นป่วนและล่มสลาย
มันจึงได้พยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือในตัวอุลตร้าแมนและหน่วยวิทยะ
ซึ่งเป็นตัวกีดขวางแผนการของมันให้หมดสิ้นลง
แต่สุดท้ายมันก็ถูกลำแสงสเปเซี่ยมยิงแผดเผาไปจนมอดไหม้
( ผู้รับบท , พากษ์เสียง : อาโอโนะ ทาเคชิ )
ตอนที่ 19 "ปีศาจร้ายหวนคืน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดฟองสีน้ำเงิน ABORAS
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : โลกในสมัย 350 ล้านปีก่อน → เขตก่อสร้างอาคารในโตเกียว
→ สถานที่ทดลองหินแร่
อาวุธ : พ่นฟองสารละลายออกมาจากปาก , พลังอันมหาศาล , กัด
ลักษณะพิเศษ : แคปซูลสีน้ำเงินที่ปรากฎอยู่ในดินได้ถูกนำไปทดสอบในสถานทดลองหินแร่
โดยการใช้วิธีปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อตจนทำให้มันคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
มันสามารถพิชิต บานิล่า ลงได้ที่สนามแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
แต่ก็ต้องมาแพ้ให้กับลำแสงสเปเซี่ยม 3 นัดซ้อนของอุลตร้าแมน
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดเพลิงสีแดง BANILA
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : โลกในสมัย 350 ล้านปีก่อน → เขตก่อสร้างอาคารในโตเกียว
→ ที่ดินเปล่าชานเมืองโตเกียว
อาวุธ : พ่นเพลิงความร้อนสูงออกมาจากปาก
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่ถูกผนึกเอาไว้ในแคปซูลเช่นเดียวกับอโบราส
เนื่องจากแคปซูลของมันได้ถูกฟ้าผ่าลงมาจึงทำให้มันฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
มันสามารถพ่นเพลิงความร้อนสูงออกมาจากปากได้
และได้เข้าต่อสู้กับอโบราสอย่างสูสี
แต่ว่าหน่วยวิทยะได้เล็งยิงกระสุนปรมาณูไปที่ดวงตาของมัน
จนทำให้มันเปิดช่องโหว่แล้วโดนฟองสารละลายจนสูญสลายไป
ตอนที่ 20 "ทางหลวงหมายเลข 87 ที่น่าสะพรึงกลัว"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มังกรแห่งที่ราบสูง HYDRA
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : ไม่ปรากฎแน่ชัด
สถานที่ปรากฎ : ภูเขาโอมุโระจังหวัดอิซึ
อาวุธ : บินด้วยความเร็วสูง , กระพือปีกสร้างลมกรรโชก , จงอยปากอันแหลมคม ,
กงเล็บที่มือและเท้า , พ่นเปลวไฟออกมาจากปาก
ลักษณะพิเศษ : มันได้บุกเข้าจู่โจมรถยนต์อย่างต่อเนื่องราวกับจะเป็นการล้างแค้นให้กับอากิระ
ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนแล้วหนี
จากนั้นมันจึงบินไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 87 ที่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงโตเกียว
แต่ว่า อุลตร้าแมน กับ หน่วยวิทยะ ก็สามารถสกัดมันเอาไว้ได้
สุดท้ายวิญญาณของอากิระได้นั่งอยู่บนหลังของมันแล้วบินหายลับไปบนท้องฟ้า
ตอนที่ 21 "ฝ่าทะลวงควันไฟไปให้จงได้"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดก๊าซพิษ KEMULAR
ความสูง : 35 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ปากปล่องภูเขาไฟโอทาเคะ
อาวุธ : พ่นก๊าซกรดกำมะถันออกมาจากปาก ( เวลาที่มันปล่อยก๊าซจะมีแสงสปาร์คอยู่ภายในปาก
ของมันอย่างต่อเนื่อง ) , ยิงลำแสงทำลายออกมาจากปลายหาง
ลักษณะพิเศษ : ปกติมันจะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในปากปล่องภูเขาไฟ
แล้วทำให้ผู้คนกับสัตว์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงต้องทุกข์ทรมานด้วยก๊าซพิษ
วัตถุเรืองแสงที่อยู่ตรงโคนหางของมันถือเป็นจุดตายสำคัญเพียงจุดเดียว
แต่ทว่า,มันมีกระบังหลังทั้ง 2 แผ่นคอยช่วยป้องกันอยู่
นอกจากนี้มันยังมีผิวหนังที่แข็งแกร่งมากถึงขนาดต้านทานการโจมตีของกองพล
อาวุธปืนแห่งกองกำลังป้องกันหรือแม้แต่ ลำแสงสเปเซี่ยม ของอุลตร้าแมนได้
อย่างไม่สะทกสะท้าน
แต่ในที่สุดมันก็ถูก ปืนแมดบาซูก้า ที่ จนท.อิเดะ เป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้น
ยิงเข้าไปที่จุดตายของมันจนร่วงหล่นลงไปในปากปล่องภูเขาไฟ
ตอนที่ 22 "แผนทำลายล้างผืนพิภพ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพ TERRESDON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 1 แสน 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ใต้ดินลึก 40,000 m
อาวุธ : พ่นเพลิงความร้อนสูงที่ละลายได้แม้แต่เหล็กกล้าออกมาจากปาก , จงอยปากอันแหลมคม
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดองครักษ์ของชาวใต้พิภพซึ่งถือเป็นหน่วยรบแนวหน้า
ในการทำลายโลกเหนือผืนดิน
มันจะใช้จงอยปากอันแหลมคมของมันทำหน้าที่เหมือนดังสว่าน
ส่วนลำตัวที่เป็นปล้องของมันจะมีหน้าที่เหมือนกับเป็นตีนตะขาบ
เพื่อใช้ในการขุดเจาะดินด้วยความเร็วสูง
ถึงแม้ว่าหน่วยวิทยะจะยิงระเบิดนาปาล์มโจมตีใส่ลำตัวอันแข็งแกร่งของมัน
ซึ่งสามารถทนทานต่อแรงอัดใต้ดินได้อย่างจัง
แต่มันก็ไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือนแม้แต่อย่างใด
ทว่า,เมื่อถูกท่าทุ่มอันรุนแรงของอุลตร้าแมนจับเหวี่ยงกระแทกกับพื้นดินแล้ว
มันก็สิ้นฤทธิ์ไป
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ใต้พิภพที่ชั่วร้าย THE UNDERGROUND HUMAN
ความสูง : 2 เมตร
น้ำหนัก : 100 กิโลกรัม
สถานที่ปรากฎ : ใต้ดินลึก 40,000 m
ลักษณะพิเศษ : เหล่ามนุษย์ที่หลบหนีลงมาอยู่ใต้พื้นดินตั้งแต่สมัยยุคน้ำแข็ง
เนื่องจากพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ใต้ดินมาเป็นเวลานาน
จึงทำให้สมรรถภาพทางสายตาเสื่อมถอยลง ดังนั้นพวกเขาจึงแพ้ต่อแสงที่เจิดจ้า
พวกเขาคิดวางแผนจะปกครองมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน
จึงได้ส่ง เทเรสด้อน ให้ออกมาปรากฎตัว
นอกจากนั้นพวกเขายังคิดที่จะล้างสมองฮายาตะ
เพื่อให้อุลตร้าแมนตกเป็นเบี้ยล่างของพวกเขาอีกด้วย
แต่ว่าเมื่อถูกแสงแฟลชในขณะแปลงร่างเข้าไปพวกเขาก็สิ้นสลายไปจนหมด
ตอนที่ 23 "บ้านเกิดคือดาวโลก"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดผู้อาศัยบนดวงดาว JAMILAR
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : โลก → ดาวเคราะห์ดวงใดสักแห่ง
อาวุธ : พ่นเปลวเพลิงออกมาจากปาก
ลักษณะพิเศษ : อดีตนักบินอวกาศของประเทศแห่งหนึ่ง
เขาได้ประสบกับอุบัติเหตุจนทำให้ต้องล่องลอยอยู่ในอวกาศ
แล้วหล่นลงไปยังดาวเคราะห์ดวงหนึ่งซึ่งไม่มีทั้งน้ำและอากาศ
แม้ว่าเขาจะมีชีวิตรอดมาได้ในสภาพแวดล้อมที่สุดแสนจะโหดร้าย
แต่รูปร่างหน้าตาของเขาก็ดูผิดแปลกออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
เขาได้กลับมาที่โลกเพื่อล้างแค้นกลุ่มบุคคลที่ปิดบังความจริง
เรื่องที่เขาถูกปล่อยลอยแพ
และพยายามจะขัดขวางการประชุมสันติภาพโลกอย่างสุดฤทธิ์
การโจมตีด้วยเพลิงความร้อนสูงมิอาจจะทำอะไรเขาได้ผล
แต่ในทางกลับกันร่างกายของเขาจะแพ้น้ำ
สุดท้ายเขาจึงถูกกระแสน้ำอุลตร้าฉีดใส่จนสิ้นใจไป
เขาได้ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1993
ยานบินจามิล่าร์ : จรวดที่มองไม่เห็นซึ่งจามิล่าร์ได้ทำการดัดแปลงมาจากยานอวกาศที่ประสบภัย
หน่วยวิทยะได้ฉายลำแสงสเปคตรัม α , β , γ
จนทำให้สามารถมองเห็นยานของมันได้แล้วจัดการโจมตีมันจนร่วงลงมา
ตอนที่ 24 "ฐานทัพวิทยาศาสตร์ใต้สมุทร"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึก GUBILA
ความยาว : 50 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ใต้มหาสมุทร
อาวุธ : สว่านปลายจมูก , พ่นสารพิษทำลายดวงตาจากกลางหลัง , ฟลายอิ้งบอดี้แอทแท็ก
( ท่ากระโดดเอาตัวพุ่งเข้าชน )
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่บุกจู่โจมศูนย์ใต้ทะเล
เพราะมันคงจะนึกว่ามันกำลังถูกล่วงล้ำอาณาเขตอยู่
มันได้เข้าทำลายอู่จอดเรือกับท่อเมนหลักซึ่งเปรียบเสมือนกับเส้นเลือดใหญ่
ที่หล่อเลี้ยงศูนย์ใต้ทะเลจนทำให้ทางหนีรอดถูกตัดขาดจนหมด
และเนื่องจากมันสามารถใช้ชีวิตได้ทั้งบนบกและในน้ำ
มันจึงสามารถเที่ยวอาละวาดบนพื้นดินได้ด้วย
อาวุธสุดยอดของมันก็คือเขาซึ่งมีลักษณะคล้ายสว่านที่ปลายจมูกนั่นเอง
โดยมันจะใช้เขานี้ในการขุดเจาะลงไปใต้ดิน , โจมตีคู่ต่อสู้
หรือแม้แต่สะท้อนกงจักรแปดเสี้ยวและอื่นๆได้อีกมากมาย
แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเขาของมันถูกหักลง มันก็ไร้กำลังต่อต้านไปโดยสิ้นเชิง
แล้วในที่สุดมันก็ถูกจัดการด้วยลำแสงสเปเซี่ยมจนระเบิดไป
ตอนที่ 25 "ซุยฟอน ดาวหางเร้นลับ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดเยือกแข็ง GUIGASS
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : เทือกเขาแอล์ปในประเทศญี่ปุ่น
อาวุธ : พลังอันมหาศาล , ลำแสงเยือกแข็ง ( ในเรื่องจะไม่ได้เห็นมันปล่อยลำแสง )
ลักษณะพิเศษ : ด้วยอิทธิพลจาก ดาวหางซุยฟอน ที่พุ่งเข้ามาใกล้โลกจึงทำให้มันลืมตาตื่นขึ้นมา
หลังจากนั้นมันจึงได้เปิดฉากต่อสู้กับ ดราโก้ ซึ่งบินมาจาก ดาวหางซุยฟอน
อย่างดุเดือด
จากนั้นมันก็จับคู่แท็กทีมกับ เรดคิง ที่เข้ามาร่วมวงกลางครันเป็นการชั่วคราว
เพื่อรุมเล่นงานดราโก้ให้สิ้นฤทธิ์ไปก่อน
หลังจากที่พวกมันพิชิต ดราโก้ ลงได้แล้วมันก็แตกคอกับเรดคิง
หน่วยวิทยะจึงได้อาศัยจังหวะนั้นยิงมิซไซล์ดูดความชื้นอานุภาพสูง
จนทำให้มันแหลกสลายไปเป็นผุยผง
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดดาวหาง DORAKO
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวหางซุยฟอน
อาวุธ : เคียวทั้ง 2 มือ , บินด้วยความเร็วสูง
ลักษณะพิเศษ : มันได้บินลงมายังเทือกเขาแอล์ปในประเทศญี่ปุ่นขณะที่ดาวหางซุยฟอน
กำลังพุ่งเข้าใกล้โลก
ปีกที่ดูเหมือนของตั๊กแตนนั้นถึงแม้จะดูบอบบางแต่ก็มีความแข็งแรงมาก
ถึงขนาดที่สามารถใช้บินในอวกาศได้ หรือแม้แต่ในชั้นบรรยากาศของโลกเอง
มันก็สามารถบินได้รวดเร็วกว่า ยานวีทอล
หรือเหนือกว่าสมรรถนะของยานยนต์เสียอีก
ด้วยกลอุบายของหน่วยวิทยะจึงทำให้มันต้องต่อสู้ห้ำหั่นกับกิกัส
โดยมันได้ใช้ความสามารถในการบินและเคียวเข้ารุกกดดัน กิกัส อย่างหนัก
แต่พอมี เรดคิง เข้ามาร่วมผสมโรงด้วยเหตุการณ์จึงพลิกผัน
จากหน้ามือเป็นหลังมือ
โดยหลังจากที่มันถูกเด็ดปีกออกแล้ว เรดคิง จึงจัดการเผด็จศึกมันลง
ด้วย ท่ารีเวิร์สบอสตันแคร็บ ( จับขาข้างหนึ่งแล้วนั่งดัดหลัง ) จนสิ้นฤทธิ์ไป
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดโครงกะโหลก REDKING ( รุ่นที่ 2 )
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ใต้ก้นทะเลโอฮอค์ส → เทือกเขาแอล์ปในญี่ปุ่น
อาวุธ : พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : เรดคิงส์ตัวนี้คาดว่ามันคือสายพันธุ์เดียวกับเรดคิงอีกตัวหนึ่ง
ที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะทาทาระ
แต่ว่าลำตัวของมันจะเป็นสีทอง ทั้งยังมีความสามารถในการมุดดินได้อีกต่างหาก
นอกจากนี้ไม่เพียงแต่เฉพาะในเรื่องของพละกำลังเท่านั้น
แต่มันยังมีทั้งท่าเตะต่อยและท่าจับล็อคอีกมากมาย
ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันมีความแข็งแกร่งและชื่นชอบการต่อสู้
มากกว่าเรดคิงตัวก่อน
และเนื่องจากมันได้กลืนระเบิดไฮโดรเจนที่ถูกทิ้งลงในทะเลโอฮอค์ส
เข้าไปถึง 6 ลูก จึงไม่มีใครกล้าโจมตีมันอย่างบุ่มบ่าม
แต่สุดท้ายมันก็ถูกตรึงร่างไว้บนอากาศด้วยท่าอุลตร้าแอร์แคช
แล้วโดนกงจักรแปดเสี้ยวหั่นเป็นส่วนๆ
จากนั้นอุลตร้าแมนจึงนำแต่ส่วนหัวของมันไปทำลายบนอวกาศ
ซุยฟอน : ดาวหางที่พุ่งเฉียดโลกไปเพียง 55,860 km ซึ่งในเวลานั้นได้มีรังสีคอสมิกปริมาณมาก
ถูกปล่อยออกมา
จากการคำนวนมันจะพุ่งเข้าชนโลกในเวลา 8:00 น.ของวันที่ 2 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 3026
ตอนที่ 26 "จ้าวแห่งสัตว์ประหลาด ภาคแรก"
ตอนที่ 27 "จ้าวแห่งสัตว์ประหลาด ภาคจบ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ GOMORA
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : เกาะจอห์นสัน
อาวุธ : หางท่อนยาวอันทรงพลัง , ใช้เขาบนหัวพุ่งเข้าขวิด , หนามแหลมตรงข้อศอก
ลักษณะพิเศษ : โกโมลาซอร์รัส ไดโนเสาร์แห่งยุค 150 ล้านปีก่อน
ที่มีชีวิตอาศัยอยู่มาจวบจนถึงปัจจุบัน
มันได้ถูกจับตัวมาเพื่อนำไปแสดงในงานมหกรรมเมืองโอซาก้า
แต่ว่ามันก็เกิดตื่นขึ้นกลางครันในระหว่างขนส่งทางอากาศ
ถึงแม้ว่ามันจะตกลงมาจากท้องฟ้าที่สูงถึง 2,000 m
แต่มันก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด ซ้ำยังมีแต่จะยิ่งทวีความดุร้ายมากขึ้น
พลังของมันนั้นสามารถพิชิตอุลตร้าแมนลงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
นอกจากนี้มันยังสามารถเคลื่อนที่ใต้ดินได้ด้วยความเร็วสูง
มันจึงสามารถที่จะไปปรากฎตัวขึ้นที่ใดก็ได้
หางของมันจัดว่าเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพมาก
แต่สุดท้ายก็ถูกปืนมาร์ส 133 ยิงโจมตีจนขาดสะบั้นไป
แล้วหลังจากนั้นมันจึงถูกเล่นงานด้วย ลำแสงสเปเซี่ยม จนปราชัยไป
ในศึกรอบแก้ตัวของอุลตร้าแมน
ตอนที่ 28 "ตัวอย่างมนุษย์ 5・6"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อมนุษย์สามหน้า DADA
ความสูง : 1.9 ~ 40 เมตร
น้ำหนัก : 70 กิโลกรัม ~ 7 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวดาด้า
อาวุธ : ล่องหน , ทะลุผ่านกำแพง , เข้าสิงในร่างมนุษย์ , บิน , อุปกรณ์ย่อส่วน
ลักษณะพิเศษ : โค้ดเนมของมันคือ ดาด้าหมายเลข 271
มันได้พยายามที่จะสร้างมนุษย์จำลองขึ้น 6 คน
โดยใช้อุปกรณ์ย่อส่วนตามคำสั่งของ ผบ.ดาด้า
ดังนั้นมันจึงได้บุกยึดศูนย์วิจัยรังสีคอสมิก
มันมีใบหน้าที่แตกต่างกันถึง 3 แบบจึงแสร้งทำให้อีกฝ่าย
ดูเหมือนกับว่ามีพวกมันอยู่ 3 ตนด้วยกัน
แต่ทว่า,มันกลับอ่อนแอเกินคาดโดยสังเกตดูได้จากตอนที่กัปตันมุรามัตซึ
สามารถเอาตัวพุ่งเข้าชนมันจนล้มได้
และถึงแม้ว่ามันจะกลายร่างยักษ์แล้วก็ตาม
แต่ก็แน่นอนว่ามันไม่ใช่คู่มือของ อุลตร้าแมน เลยสักนิด
สุดท้ายมันจึงถูกพิชิตลงด้วย ลำแสงสเปเซี่ยม ไปตามฟอร์ม
อุปกรณ์ย่อส่วน : เครื่องมือที่ใช้ในการย่อขนาดชาวโลกให้ตัวเล็กลงเท่ากับหลอดทดลอง
เพื่อที่จะนำไปสร้างมนุษย์จำลอง มันได้ถูกนำไปใช้ย่อส่วนอุลตร้าแมน
ให้มีขนาดเท่ามนุษย์ด้วย
ผู้บัญชาการดาด้า : ผู้ออกคำสั่งให้ ดาด้า หมายเลข 271 ออกไปปฏิบัติภารกิจจากดาวแม่
และเป็นผู้ที่มอบอุปกรณ์ย่อส่วนที่เจ๊งแล้วให้
ซ้ำยังสั่งให้ "กำจัดอุลตร้าแมนซะ"
โดยที่ไม่ได้ประเมินถึงฝีมือของพวกตนเอาซะเลย
ตอนที่ 29 "ความท้าทายในใต้พิภพ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดทองคำ GOLDON
ความยาว : 65 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : สายแร่ทองคำในภูเขาโอตะ
อาวุธ : เคลื่อนที่ใต้ดินด้วยความเร็วสูง , หางที่เปรียบเสมือนดั่งแส้
ลักษณะพิเศษ : เนื่องจากมันเป็นสัตว์ประหลาดที่ชอบกินทองคำเป็นอาหาร
มันจึงได้บุกเข้าไปกินสายแร่ทองคำที่ภูเขาโอตะซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งขุมทอง
อันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเสียจนเกลี้ยงแล้วกลายเป็นเหมืองร้างไป
ซ้ำยังได้บุกเข้าไปทำลายเมืองมุโรจนพังพินาศ
มันสามารถเคลื่อนที่ในดินได้ว่องไวกว่าเวลาที่อยู่บนพื้นดิน
ซึ่งความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันนั้นรวดเร็วกว่ารถถังใต้ดินเบลไซเดอร์ถึง 3 เท่า
แต่ถึงกระนั้นมันก็ถูก เบลไซเดอร์ โจมตีจนต้องปรากฎตัวออกมาเหนือพื้นดิน
โกลด้อนตัวหนึ่งได้ถูกปืนซูเปอร์กันยิงเล่นงานเข้าไปที่หัวใจ
ในจังหวะที่มันกำลังอ่อนแรงลงเพราะฤทธิ์ของระเบิดโคโลน่าจนสิ้นชีพไป
ส่วนอีกตัวหนึ่งก็ได้บุกจู่โจมรถถังเบลไซเดอร์
แต่กลับถูกตอร์ปิโดใต้ดินซึ่งเป็นไม้ตายสุดท้ายตอบโต้สวนกลับมา
จนต้องโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน
จากนั้นมันก็ถูก ลำแสงสเปเซี่ยม ของอุลตร้าแมนจัดการ
หลังจากนั้นทองคำบริสุทธิ์จำนวน 150 ตัน ก็ถูกเก็บกู้มาได้จากซากศพของมัน
ทั้ง 2 ตัว แล้วนำไปใช้เป็นเงินทุนในการบูรณะเมืองมุโรให้ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม
ตอนที่ 30 "ภาพหลอนบนภูเขาหิมะ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดในตำนาน WOO
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : ไม่ปรากฎแน่ชัด
สถานที่ปรากฎ : ภูเขาอิอิดะ
อาวุธ : สร้างลมพายุหิมะที่รุนแรง
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่ว่ากันว่าอาศัยอยู่บนภูเขาอิอิดะซึ่งเป็นอาณาเขตลี้ลับ
ที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน
ด้วยเสียงร้องตะโกนของยูคิซึ่งเป็นเด็กกำพร้า
( คนทั่วไปมักจะเรียกเธอว่า "สาวน้อยหิมะ" )
จึงทำให้มันปรากฎตัวออกมา มีคำล่ำลือกันว่าวิญญาณของแม่ยูคิ
ได้กลายร่างมาเป็น วูห์ ตนนี้
ร่างกายของมันจะปกคลุมไปด้วยขนสีขาวๆยาวๆ
และจะออกมาปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับเกล็ดหิมะที่ถูกสายลมพัดฟุ้งตลบ
มันมีความแข็งแกร่งทนทานมากกว่าที่เห็นจากภายนอก
โดยดูจากการที่มันสามารถทนต่อการโจมตีด้วยมิซไซล์ของหน่วยวิทยะได้
นอกจากนี้เปลือกตาของมันจะเป็นแนวตั้ง
มันได้เข้าต่อสู้กับอุลตร้าแมนอยู่พักหนึ่ง
แต่ด้วยเสียงของยูคิจึงทำให้มันสงบลงได้ แล้วหายตัวไปท่ามกลางหิมะ
ตอนที่ 31 "คนที่มาเป็นใคร"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : พืชดูดเลือด KERONIA
ความสูง : 50 เซนติเมตร ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 80 กรัม ~ 1 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ลึกเข้าไปในป่าอเมซอน
อาวุธ : ยิงลำแสงทำลายจากดวงตา , พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : พืชที่ทรงภูมิปัญญาซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 20 ปี ในการวิวัฒนาการอย่างผิดปกติ
ภายในเขตพื้นที่ส่วนลึกของอเมริกาใต้
มันมีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ถึงขนาดที่สามารถสร้างเรือเหาะลอยฟ้า
แอร์ชิพคอมบิเนท ได้เลยทีเดียว
มันได้ค้นพบว่าเลือดของมนุษย์เป็นสิ่งที่อร่อยที่สุด
มันจึงคิดที่จะวางแผนปกครองมนุษย์ทั้งมวล
โดยมันได้อาศัยชื่อของ จนท.โกโต้ ในการลอบเข้าไปยังฐานทัพหน่วยวิทยะ
มันจะใช้พลังเทเลคิเนซิสในการดับไฟซึ่งเป็นสิ่งที่มันไม่ชอบ
นอกจากนี้มันยังมีความอึดมากถึงขนาดที่สามารถทนต่อการโจมตี
ด้วยลำแสงสเปเซี่ยมแบบตรงๆได้
แต่สุดท้ายก็มาถูกลำแสง อุลตร้าแอทแท็ค ทำลายจนแหลกไปเป็นเสี่ยงๆ
แอร์ชิพคอมบิเนท : ฝูงเรือเหาะขนาดใหญ่ที่ เคโรเนีย ได้พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างอาณาจักร
ของเหล่ามนุษย์พืชขึ้นมา
ด้วยการประสานงานกันระหว่าง อุลตร้าแมน กับ หน่วยวิทยะ
จึงสามารถโจมตีตอบโต้มันได้เป็นผลสำเร็จ
ตอนที่ 32 "การตอบโต้ไร้ที่สิ้นสุด"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดเพลิงโลกันตร์ ZUMBOLAR
ความยาว : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : กลางหุบเขาในชานเมืองคามาคุระ
อาวุธ : แผ่คลื่นความร้อนสูงออกมาจากวัตถุเรืองแสงที่กลางหลัง , หางที่เปรียบเสมือนดั่งแส้
ลักษณะพิเศษ : เมื่อวัตถุเรืองแสงที่อยู่บนหลังของมันเกิดเปล่งแสงออกมา
บริเวณโดยรอบนั้นจะถูกแผ่ปกคลุมไปด้วยคลื่นความร้อน
จนทำให้ผืนป่าต้องมอดไหม้ สายน้ำในลำธารต้องเดือดพล่าน
และยิ่งถ้ามันโกรธจัดขนาดเกราะของรถถังก็ยังถึงกับต้องหลอมละลาย
มันรู้สึกโกรธแค้นมนุษย์ที่ไปบุกทำลายที่ดินจนต้องปรากฎตัวออกมา
และเริ่มเผาทำลายเขตก่อสร้างพัฒนาที่ดินในเมืองมิยาโนะโมริจนวอดวาย
จากนั้นมันก็มุ่งหน้าไปยังโอนิยามะแล้วทำลายโรงงานเคมีเสียจนราบคาบ
แม้แต่การโจมตีด้วยกระสุนเยือกแข็งที่มีชื่อว่า "กระสุนดับร้อน" ของหน่วยวิทยะ
ก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้ผล
หลังจากนั้นมันก็ตรงเข้าจู่โจมหน่วยรถถังที่พยายามจะสกัดมัน
ไม่ให้มุ่งหน้าไปยังกรุงโตเกียวในบริเวณใกล้ๆกับอิเคโนะซาวะ
แต่ว่ามันก็ต้องมาจบชีวิตลงเมื่อเจอกับ ลำแสงสเปเซี่ยม ของอุลตร้าแมน
ตอนที่ 33 "คำพูดต้องห้าม"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อมนุษย์จอมลักพาตัว KEMUR
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 6 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวเคมูล
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวที่เคยปรากฎตัวใน "อุลตร้า Q" ซึ่งคาดว่ามันน่าจะเป็นพลทหาร
ที่คอยเคลื่อนไหวตามคำสั่งของมนุษย์ดาวเมฟิราส
ทว่า,ในเนื้อเรื่องไม่ได้มีการกล่าวว่าดาวเคมูลได้ถูก มนุษย์ดาวเมฟิราส
เข้ายึดครองแต่อย่างใด
มันมีความแตกต่างจาก ชาวเคมูล ตัวแรกตรงลวดลายบนลำตัวของมัน
มันได้ปรากฎตัวออกมาแบบปุบปับในย่านอาคารสูง
ภายหลังจากที่มนุษย์ดาวเมฟิราสได้แสดงพลังให้เป็นที่ประจักษ์
จึงคาดว่ามันคงเป็นแค่ร่างเงาซึ่งไม่มีร่างที่แท้จริง
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : นินจาอวกาศ ALIEN BALTAN ( รุ่นที่ 3 )
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวเคราะห์ R
ลักษณะพิเศษ : คาดว่ามนุษย์ดาวบัลตั้นที่เคยปรากฎตัวออกมา 2 ครั้งก่อนหน้านี้
คงจะหันมาร่วมมือกับ มนุษย์ดาวเมฟิราส เพื่อยึดครองโลก
เนื่องจากในเรื่องไม่ได้ระบุเอาไว้ว่ามันครอบครองดาวเคราะห์ R ได้
นั่นจึงเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าทำไมในภายหลัง มนุษย์ดาวบัลตั้น จึงยังไม่ยอมล้มเลิก
การรุกรานโลกอีก
เมื่อดูจากลักษณะภายนอก มนุษย์ดาวบัลตั้น ตัวนี้จะมีสีที่ลำตัวออกคล้ำๆ
และตั้งแต่ช่วงตาไปจนถึงปากจะเป็นสีขาวซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
เป็นไปได้ว่านี่ก็คงเป็นเพียงร่างเงาเหมือนกับมนุษย์ต่างดาวตัวอื่นๆ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวจอมวายร้าย ALIEN ZARAB ( รุ่นที่ 2 )
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวซารับ
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวผู้อยู่ภายใต้การปกครองของ มนุษย์ดาวเมฟิราส
เพราะเกรงกลัวต่อความสามารถพิเศษของมัน
ซารับที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์เพทุบายจึงจำต้องเชื่อฟังคำสั่งของเมฟิราส
แต่ก็ไม่แน่ว่ามันอาจจะมีวัตถุประสงค์อะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ก็เป็นได้
มันต่างจาก ซารับ ตัวแรกตรงที่ใบหูของมันจะไม่มีส่วนที่เป็นสีแดงๆ
เนื่องจากมันปรากฎตัวออกมาอย่างกะทันหันเกินไป
จึงมิอาจปฏิเสธได้ว่านั่นเป็นเพียงแค่ร่างเงาจากภาพฉายเท่านั้น
ตัวละครที่ปรากฎ : เจ้าหน้าที่ ฟูจิ ร่างยักษ์ THE GIANT FUJI
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ญี่ปุ่น
อาวุธ : พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : อยู่ๆ จนท.ฟูจิ ที่ถูก มนุษย์ดาวเมฟิราส จับตัวไปก็เกิดกลายร่างยักษ์ขึ้นมา
อย่างกะทันหันแล้วไปปรากฎตัวขึ้นในเมืองเขตที่ 28 ย่านมารุโนะอุจิ
จังหวัดโตเกียว
จากนั้นเธอก็ถูก มนุษย์ดาวเมฟิราส สั่งให้เที่ยวไปทำลายตึกรามบ้านช่อง
ราวกับหุ่นยนต์
ไม่มีใครทราบได้ว่า มนุษย์ดาวเมฟิราส ใช้กลวิธีใด
ในการทำให้ จนท.ฟูจิ กลายร่างยักษ์ขึ้นมาแบบนี้ได้
แต่หลังจากนั้นจู่ๆเธอก็หายไปแล้ว มนุษย์ดาวบัลตั้นรุ่นที่ 3 ก็ออกมาปรากฎตัว
ณ.ที่แห่งนั้นแทน
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวผู้ชั่วร้าย ALIEN MEFILAS
ความสูง : 2 ~ 60 เมตร
น้ำหนัก : 40 ~ 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวเมฟิราส
อาวุธ : กริปบีม ( ยิงแบบยื่นทั้งสองแขนออกมา , ยิงแบบประสานหมัดไว้ตรงอก ,
ยิงแบบยื่นแขนออกมาข้างเดียว) , พลังต้านแรงโน้มถ่วง , วิชาตรึงร่าง , บิน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถจนถึงขนาดที่ทำให้มนุษย์ต่างดาว
ที่ชั่วร้ายตนอื่นๆยอมสยบอยู่ใต้อาณัติของมัน
มันสามารถต่อสู้กับอุลตร้าแมนได้อย่างสูสีทัดเทียมกัน
มันเป็นมนุษย์ต่างดาวแบบสุภาพชนจึงรังเกียจการใช้กำลังเข้าข่มเหง
แม้แต่ตอนที่มันจะเข้ายึดครองโลก
มันก็ยังพยายามจะบังคับให้ ซาโตรุ เด็กหนุ่มที่มันเป็นคนเลือก
พูดว่า "ผมขอยกโลกใบนี้ให้" แต่เหตุการณ์ก็ไม่เป็นไปอย่างที่มันคาดไว้
มันจึงได้ลาจากไปโดยฝากคำพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ( ผู้พากษ์เสียง : คาโต้ เซย์โซ )
จานบินของมนุษย์ดาวเมฟิราส : ยานบินที่แอบซ่อนอยู่ใน ภูเขาทาคิทาคิซาวะ ซึ่งภายในจะมีห้อง
ที่สามารถสร้างสภาพต้านแรงโน้มถ่วงได้
นอกจากนี้มันยังสามารถปล่อยลำแสงทำลาย
จากวัตถุที่ยื่นโผล่ออกมาตรงด้านบนได้อีกด้วย
ตอนที่ 34 "ของขวัญจากฟ้า"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดเมกะตัน SKYDON
ความยาว : 60 เมตร
น้ำหนัก : 2 แสนตัน
สถานที่ปรากฎ : อวกาศ
อาวุธ : พ่นเปลวเพลิงออกมาจากปาก , ร่างกายที่หนักอึ้ง , พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : มันได้แปลงเป็นลูกไฟสีแดงฉานและตกลงมายังเขตถมที่ดินในย่านฮารุมิ
ด้วยน้ำหนักตัวอันมหาศาลของมันจึงทำให้เพียงแค่มันก้าวเดิน
ก็ถึงกับทำให้พื้นดินในแถบนั้นทรุดลงไปตามๆกัน
ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีในรูปแบบใดก็ไม่สามารถสร้างความเสียหาย
ให้แก่ร่างกายอันแข็งแกร่งของมันซึ่งสามารถทนได้แม้แต่การตกลงมาจากอวกาศ
กระทั่ง อุลตร้าแมน เองก็ยังจนปัญญาที่จะทำอะไรมันได้
ปกติมันมักจะชอบนอนกรนเสียงดัง
ขณะที่มันกำลังจะหล่นลงมาที่กรุงโตเกียวเพราะกลยุทธ์ลูกโป่งสัตว์ประหลาด
ของหน่วยวิทยะเกิดล้มเหลว อุลตร้าแมน จึงยอมเอาตัวเข้าแลก
โดยใช้วิธีพุ่งชนมันจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ
ตอนที่ 35 "สุสานสัตว์ประหลาด"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : วิญญาณสัตว์ประหลาด SEABOZU
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาวดวงใดดวงหนึ่ง → สุสานสัตว์ประหลาด
อาวุธ : พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกขับไล่ให้มายังสุสานสัตว์ประหลาดจากดาวดวงอื่น
แต่เนื่องจากมันไปคว้าจรวดที่ยิงขึ้นสู่ดวงจันทร์เอาไว้จึงได้ตกลงมาที่โลก
หลังจากนั้นมันจึงได้พยายามหาหนทางที่จะกลับไปสู่สุสานสัตว์ประหลาด
อันเป็นที่สงบของมันโดยคิดจะใช้วิธีกระโดดจากยอดตึกระฟ้า
มันมีพละกำลังมหาศาลถึงขนาดที่สามารถล้มจรวดด้วยมือข้างเดียวได้
อุลตร้าแมนเองก็พยายามที่จะทำให้มันได้กลับไปสู่สุสานเช่นกัน
แต่ด้วยพลังของมันที่แข็งแกร่งเกินคาดนี้เอง
จึงทำให้ อุลตร้าแมน ต้องเสียเวลาไล่ต้อนมันนานเกินไป
จนหมดเวลาที่จะอยู่บนโลก
แต่ด้วยความร่วมมืออีกครั้งของ อุลตร้าแมน จึงทำให้มันเอามือคว้าจับจรวด
ที่มีลักษณะคล้ายอุลตร้าแมนซึ่งถูกทาด้วยสีเงินและสีแดง
แล้วยิงมันส่งกลับสู่สุสานสัตว์ประหลาดได้ในที่สุด
สุสานสัตว์ประหลาด : สุสานที่ตั้งอยู่ในเขตอุลตร้าโซนบนความสูง 4 หมื่นเมตร
ที่ซึ่งพวกเคมูล่าร์ , เนลองก้า , แอนทล่าร์ , แกงโก๊ะ , เทเรสด้อน , พิกม่อน
ฯลฯ หลับอยู่ชั่วนิรันดร์
ตอนที่ 36 "อย่ายิงนะ ! อาราชิ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดแปลงกาย ZARAGAS
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ใต้ดินกรุงโตเกียว
อาวุธ : ยิงลำแสง 60 ล้านแคนเดลาออกมาจากท่อทั่วลำตัว
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินพร้อมกับกลุ่มควันสีแดง
มันสามารถยิงลำแสงจากใต้ดินให้สาดส่องขึ้นไปบนฟ้าได้
ซึ่งถ้าหากใครมองไปที่แสงนั่นโดยตรงก็อาจจะทำให้ถึงขั้นตาบอดได้
เมื่อมันได้รับการโจมตีไม่นานร่างกายของมันก็จะปรับสภาพ
ให้ทนต่อการโจมตีนั้นได้และจะยิ่งทวีความดุร้ายมากขึ้นไปเรื่อยๆ
หรือพูดกันอีกนัยหนึ่งก็คือมันเป็นสัตว์ประหลาดที่เป็นอมตะนั่นเอง
แต่เมื่อถูกการโจมตีผนวกกันระหว่างปืน QX และ ลำแสงสเปเซี่ยม เข้าไป
มันก็ไม่สามารถต้านทานได้จนต้องพินาศไป
ตอนที่ 37 "วีรบรุษตัวน้อย"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อสูรกายที่เป็นมิตร PIGMON ( คืนชีพ )
ความสูง : 1 เมตร
น้ำหนัก : 10 กิโลกรัม
สถานที่ปรากฎ : ( สุสานสัตว์ประหลาด ? ) → ภูเขาโออิวะ
ลักษณะพิเศษ : อยู่ๆมันก็ไปปรากฎตัวขึ้นในห้างสรรพสินค้าย่านกินซ่า
และต้องการจะรีบแจ้งข่าวเรื่องแผนการของ เจโรนีม่อน ให้หน่วยวิทยะทราบ
โดยเร็วที่สุด
มันยังคงมีนิสัยกล้าหาญเหมือนกับตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่
โดยมันได้เข้าไปประจัญหน้ากับ ดราโก้ เพื่อช่วยเหลืออิเดะ
แต่มันก็ต้องถูกสังหารลงอีกครั้ง
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดดาวหาง DORAKO ( คืนชีพ )
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ( สุสานสัตว์ประหลาด ? ) → ภูเขาโออิวะ
อาวุธ : พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : หนึ่งในแนวหน้าของกองทัพสัตว์ประหลาดที่ เจโรนีม่อน ทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา
มันมีลักษณะรูปร่างแตกต่างไปจากตอนแรก ตรงที่ปีกของมันจะหายไป
และเคียวที่แขนก็เปลี่ยนมาเป็นนิ้วมือ ส่วนเขาบนหัวก็เพิ่มขึ้นเป็น 5 อัน
มันได้ถูกสปาร์ค 8 อาวุธชิ้นใหม่ที่ อิเดะ เป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้น
ทำลายจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพ TERRESDON ( คืนชีพ )
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 1 แสน 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ( สุสานสัตว์ประหลาด ? ) → ภูเขาโออิวะ
อาวุธ : พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดคืนชีพที่ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกับดราโก้
มันได้เข้าไปมีเรื่องปะทะกับ ดราโก้ อยู่พักนึง
แต่ก็ต้องจ๋อยไปเมื่อได้ยินเสียงคำรามของเจโรนีม่อน
รูปร่างหน้าตาภายนอกของมันนั้นไม่ได้มีอะไรที่ผิดแผกไปจากเดิมเป็นพิเศษ
แต่สุดท้ายมันได้ถูกการยิงโจมตีแบบสามประสาน
ด้วยปืนซูเปอร์กันของหน่วยวิทยะเข้าไป
จนลิ้นห้อยแล้วหมดลมล้มลงไปอย่างง่ายดาย
จึงดูเหมือนว่าผิวหนังที่เคยทนต่อการโจมตีของระเบิดนาปาล์มแบบจังๆได้
จะบอบบางลงไปมาก
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จ่าฝูงสัตว์ประหลาด GERONIMON
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ภูเขาโออิวะ
อาวุธ : ความสามารถในการคืนชีพสัตว์ประหลาด , ยิงขนนกอาบยาพิษ ,
พ่นก๊าซต้านแรงโน้มถ่วงออกมาจากปาก
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่วางแผนการโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่
โดยการทำให้สัตว์ประหลาดที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมา
เป็นจำนวนมากกว่า 60 ตัว
มันมีพลังอำนาจขนาดที่สามารถหยุดการแตกคอกัน
ระหว่าง ดราโก้ กับ เทเรสด้อน ได้เพียงแค่ส่งเสียงคำราม
แต่ทว่า,มันก็ทำพลาดที่ไปฟื้นคืนชีพให้ พิกม่อน ซึ่งอยู่ฝ่ายเดียวกับมนุษย์
มันได้ใช้พลังจิตในการควบคุมขนนกอาบยาพิษที่หางของมัน
เข้าเล่นงานอุลตร้าแมนเสียจนย่ำแย่
แต่อุลตร้าแมนก็ใช้ ลำแสงสเปเซี่ยม สอยขนนกทั้งหมดนั่นให้ร่วงหล่นลงมาได้
จากนั้นจึงใช้ ลำแสงรีบาวน์ด สะท้อนก๊าซต้านแรงโน้มถ่วงกลับไปหามัน
จนลอยขึ้นไปกลางอากาศ แล้วถูกปิดฉากลงด้วยสปาร์ค 8 ของอิเดะ
จนแหลกเป็นผุยผง
ตอนที่ 38 "คำสั่งกู้ภัยยานอวกาศ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดทรายดูด SAIGO
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาว Q
อาวุธ : พรางตาด้วยควันทรายที่พ่นออกมาจากปาก , พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : มันจะตั้งแนวปราการของตนอยู่ในแถบทรายดูดบนดาว Q
และคอยจับผู้ที่ย่างกรายเข้ามาในบริเวณนั้นเป็นอาหาร
มันสามารถเจาะมุดลงไปยังใต้ดินได้
และได้เข้าต่อสู้กับ คีย์ล่าร์ เพื่อแย่งชิงอาณาเขตกัน
แต่กลับถูกกดดันจนต้องถอยร่นไป
สุดท้ายหน่วยวิทยะได้ยิงจรวดมิซไซล์จากสเปซแทงก์ ( รถถังอวกาศ )
ทำลายมันจนระเบิดเป็นเสี่ยง
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดลำแสงความร้อน KEYLLA
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ดาว Q
อาวุธ : ยิงลำแสงช็อคออกมาจากดวงตา , พลังอันมหาศาล
ลักษณะพิเศษ : มันจะหลับตาลงเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ประมาทแล้วจะปล่อยแสงประหลาดที่สว่างจ้า
จนแสบตาออกมาพร้อมกับตอนที่มันลืมตาขึ้น
เมื่อศัตรูจ้องมองแสงนี้แล้วจะทำให้ตาพร่าไปชั่วขณะหนึ่ง
และด้วยการโจมตีนี้เองจึงทำให้ ไซโกะ ต้องพ่ายแพ้ไป
มันมีพละกำลังอันแข็งแกร่งและท่ากระทืบที่รุนแรง
อีกทั้งลำตัวของมันยังมีความทนทานมาก
ขนาด ลำแสงสเปเซี่ยม ก็ยังทำอะไรมันไม่ได้
ส่วนหางของมันก็สามารถสะท้อนพลังกงจักรแปดเสี้ยวได้อีกด้วย
แต่สุดท้ายมันก็ถูกอุลตร้าแมนใช้ท่าอุลตร้าไซโคคิเนซิส
โจมตีสวนกลับไปจนแหลกเป็นจุณ
ดาว Q : ดาวที่อยู่ในระบบสุริยะจักรวาลซึ่งมีปริศนาซ่อนเร้นอยู่เป็นเวลายาวนาน
มันมีแรงดึงดูดน้อยกว่าโลกและมีปริมาณน้ำกับอากาศอยู่เพียงเล็กน้อย
ตอนที่ 39 "ลาก่อนอุลตร้าแมน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อมนุษย์แปลงกาย ALIEN Z-TON
ความสูง : 2 เมตร
น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
สถานที่ปรากฎ : ที่ใดที่หนึ่งในอวกาศ
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวผู้นำฝูงยานบินอวกาศมาเพื่อเปิดฉากรุกรานโลกอย่างเต็มรูปแบบ
มันใช้ความสามารถในการแปลงกายปลอมตัวเป็น ดร.อิวาโมโตะ
เพื่อไปทำลายศูนย์บัญชาการกลางของฐานทัพหน่วยวิทยะได้สำเร็จ
แต่สุดท้ายมันก็ถูกเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงและถูกกำจัดลงด้วยปืนมาร์ส 133
มันถูกเรียกว่า มนุษย์ดาวเซ็ทต้อน ตามชื่อของ มังกรอวกาศเซ็ทต้อน
ที่อยู่ภายใต้คำบัญชาของมัน
แต่ชื่อที่แท้จริงหรือถิ่นกำเนิดของมันนั้นทุกอย่างล้วนเป็นปริศนา
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มังกรอวกาศ Z-TON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่นตัน
สถานที่ปรากฎ : ที่ใดที่หนึ่งในอวกาศ
อาวุธ : ยิงกระสุนแสงสีแดงออกมาจากใบหน้า , บาเรียคลื่นแสง , ยิงคลื่นลำแสงออกมาจากแขน
ลักษณะพิเศษ : มันได้ปรากฎตัวออกมาจากบอลลูนที่พองขึ้นมาจากยานแม่
ซึ่งปรากฎขึ้นหลังจากที่ มนุษย์ดาวเซ็ทต้อน ได้จบชีวิตลง
ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง,พลังป้องกันหรือวิชาลำแสง
ทุกอย่างล้วนเหนือกว่า อุลตร้าแมน ทุกด้าน
มันจึงนับเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา
มันได้ดูดกลืนพลังลำแสงสเปเซี่ยมของอุลตร้าแมน
แล้วสะท้อนเป็นพลังคลื่นแสงกลับไปทำลายคัลเลอร์ไทมเมอร์
จนทำให้อุลตร้าแมนสิ้นฤทธิ์
แต่ท้ายที่สุดมันก็ถูก กระสุนต้านแรงโน้มถ่วง อาวุธที่ ดร.อิวาโมโตะ ประดิษฐ์
คิดค้นขึ้นมาใหม่ทำลายไปจนแหลกเป็นผุยผง
จานบินเซ็ทต้อน : ภายหลังจากที่พวกมันได้ทำการสำรวจโลกมาเป็นเวลา 40 ปีตั้งแต่ปี ค.ศ.1930
พวกมันจึงได้บินมากันเป็นกลุ่มใหญ่
แต่หน่วยวิทยะก็ขับยานวีทอลออกไปยิงโต้ตอบ
สอยยานบินทุกลำจนร่วงลงไปหมด ยกเว้นยานแม่ขนส่งของพวกมัน
****************************************
****************************************
อุลตร้าแมน VS มาสค์ไรเดอร์
ซุปเปอร์แบทเทิ่ล อุลตร้าแมน VS มาสค์ไรเดอร์ เป็นผลงานที่ถูกถ่ายทำออกมาในรูปแบบ VDO ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 1993
อุลตร้าแมน และ มาสค์ไรเดอร์ 2 ฮีโร่ยอดนิยมซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ต่างค่ายและต่างโลกกัน ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าทั้ง 2 ค่ายนี้ ( ซึบุรายะ กับ อิชิโนโมริ ) จะจับมือกันทำหนังสั้นเรื่องนี้ออกมา แต่เนื่องจากในช่วงก่อนยุคปี 90 ซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้ต่างก็ไม่ได้มีการถ่ายทำเป็นทีวีซีรีส์ออกมาให้แฟนๆได้รับชมกันทางหน้าจอโทรทัศน์ ทางทีมงานจึงมีความคิดที่จะประกาศการถ่ายทำเรื่องใหม่ขึ้นมาภายหลังจากที่ห่างหายไปสักพัก โดยทาง บริษัทซึบุรายะโปรดักชั่น กับ บริษัทอิชิโนโมริโปร ( โตเอ ) ต่างก็เห็นพ้องต้องกันกับกลยุทธ์ทางการตลาดว่าจะไม่ออกอากาศทางโทรทัศน์ แต่จะใช้วิธีการวางจำหน่ายในรูปแบบ VDO แทน ดังนั้นจึงสรุปกันว่าจะทำเป็นหนังสั้นซึ่งจะถ่ายทำกันใหม่หมด โดยจะมีการสอดแทรกโปรไฟล์เปรียบเทียบฉากยอดฮิตที่ผ่านๆมาของซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้ รวมถึงบทสัมภาษณ์ของทีมงานและเหล่านักแสดงเข้าไปด้วย
โดยในส่วนของบทสัมภาษณ์นักแสดงนำนั้น เนื่องจากในขณะที่กำลังถ่ายทำผลงานชิ้นนี้อยู่ คุณฟูจิโอกะ ฮิโรชิ นักแสดงนำในเรื่อง "มาสค์ไรเดอร์" เกิดติดภารกิจส่วนตัวขึ้นมาจึงปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวของมาสค์ไรเดอร์ ดังนั้นการสัมภาษณ์ คุณคุโรเบะ ซึซึมุ นักแสดงนำในเรื่อง "อุลตร้าแมน" จึงเป็นอันต้องยกเลิกไปด้วย จากนั้นจึงมีการสรุปกันว่าจะให้ คุณโมริซึงุ โคจิ นักแสดงนำในเรื่อง "อุลตร้าเซเว่น" กับ คุณมิยาอุจิ ฮิโรชิ นักแสดงนำในเรื่อง "มาสค์ไรเดอร์ V3" ซึ่งได้รับความนิยมพอๆกันทั้งคู่มาเป็นผู้ให้สัมภาษณ์แทน
เรื่องนี้ได้ คุณอาเมมิยะ เคย์ตะ มาเป็นผู้กำกับ อีกทั้งยังได้ คุณอุราโนะ ฮิคารุ ผู้บรรยายเรื่อง "อุลตร้าแมน" กับ คุณนาคาเอะ ชินจิ ผู้บรรยายเรื่อง "มาสค์ไรเดอร์" มาทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายสลับกัน ส่วนเพลงเปิดกับเพลงแทรกในเรื่องนั้นก็ได้รับเกียรติจากเจ้าพ่อเพลงอนิเมะ คุณคาเงยามะ ฮิโรโนบุ มารับหน้าที่เป็นผู้ขับร้อง
นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทำแยกพาร์ทระหว่าง อุลตร้าแมน กับ มาสค์ไรเดอร์ ของใครของมัน ออกมาวางจำหน่ายในเวลาเดียวกันอีกด้วย
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎในเรื่อง Ultraman VS Masked Rider
มนุษย์แมงป่องพิษ ( DOKU SASORI OTOKO )
ลักษณะพิเศษ : อมนุษย์ที่ถูกส่งมาจากองค์กรช็อคเกอร์สาขาตะวันออกกลาง
เพื่อดำเนินแผนถล่มกรุงโตเกียวโดยการก่อให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
มันมีง่ามกรรไกรขนาดใหญ่ที่มือซ้าย
และก๊าซสีน้ำเงินที่พ่นออกมาจากปากเป็นอาวุธ
หลังจากที่มันต่อสู้กับ V1 และถูกลูกเตะไรเดอร์คิกเข้าไป
มันจึงได้รวมพลังกับ กาโดลาส แล้วกลายเป็น ซาโซริกาโดลาส
สัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ GADORAS
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่ตื่นขึ้นมาเพราะผลพวงจากแผนถล่มกรุงโตเกียว
ที่มี มนุษย์แมงป่องพิษ เป็นตัวการ
มันได้ต่อสู้กับ อุลตร้าแมน แล้วถูก ลำแสงสเปเซี่ยม กำจัดลงไป
แต่หลังจากนั้นมันก็ได้รวมพลังกับ มนุษย์แมงป่องพิษ
จนกลายเป็น ซาโซริกาโดลาส
อมนุษย์อสูรกายยักษ์รวมร่าง SASORI GADORAS
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดรวมร่างที่ถือกำเนิดจาก กาโดลาส กับ มนุษย์แมงป่องพิษ
ที่รวมพลังงานเข้าด้วยกันในขณะที่พวกมันกำลังเข้าตาจน
จนเกิดการกลายร่างเป็นอสูรกายตนนี้ขึ้นมา
อาวุธของมัน คือ ลำแสงที่ปล่อยออกมาจากกงเล็บที่แขนทั้งสองข้าง
และเขาขนาดใหญ่ที่อยู่บนหัว
ยิ่งไปกว่านั้นที่ช่วงท้องของมันยังสามารถดูดกลืนลำแสงสเปเซี่ยม
ของอุลตร้าแมนได้อีกด้วย
ดังนั้นมันจึงกลายเป็นฝ่ายบุกจู่โจม อุลตร้าแมน แทน
แต่หลังจาก ไรเดอร์ V1 ที่ขยายร่างให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้เข้ามาช่วยสมทบ
สถานการณ์จึงเริ่มพลิกผัน
แล้วสุดท้ายมันก็โดน ลำแสงสเปเซี่ยม กับ ไรเดอร์คิก เล่นงานพร้อมกัน
จนแหลกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
Translated by : grandking
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น